โควต้าส่งออกกล้วย JTEPA ยึดกรอบเดิมแบ่ง 3 ส่วน/ชี้กล้วยหอมสดอนาคตดี
เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 53
นางสาวสุพัตรา ธนเสนีวัฒน์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการพืชสวนได้พิจารณาหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข การจัดสรรโควตาส่งออกสินค้ากล้วย ภายใต้กรอบความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย - ญี่ปุ่น (JTEPA) ปีที่ 4 ซึ่งญี่ปุ่นได้ให้โควตาส่งออกกล้วยสดแก่ไทย จำนวน 7,000 ตัน และจะมีผลบังคับใช้ระหว่างวันที่ 1 เมษายน 2553 -31 มีนาคม 2554 โดยเห็นชอบในหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการจัดสรรโควตาส่งออกสินค้ากล้วยภายใต้กรอบ JTEPA ปีที่ 4 โดยใช้หลักเกณฑ์เดียวกับปีที่ผ่านมา ซึ่งผู้มีสิทธิ์ได้รับโควตาจะต้องเป็นนิติบุคคลและเป็นผู้ประกอบการกิจการ สินค้ากล้วยสดที่ผลิตขึ้นในประเทศ และกำหนดหลักเกณฑ์การจัดสรรโควตาเป็น 3 ส่วน ประกอบด้วย 1.โควตากลาง 2.โควต้าสำหรับผู้ส่งออกรายใหม่ซึ่งไม่เคยส่งออกไปญี่ปุ่น 3 ปีย้อนหลัง และ 3.โควตาสำหรับผู้ส่งออกที่มีประวัติส่งออกไปญี่ปุ่น 3 ปีย้อนหลัง พร้อมทั้งมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการพิจารณาจัดสรรโควตาสินค้ากล้วย และรายงานให้กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ทราบ เพื่อจะสามารถออกประกาศได้ก่อนที่ความตกลง JTEPA ปีที่ 4 จะเริ่มมีผลบังคับใช้ ซึ่งการกำหนดหลักเกณฑ์การจัดสรรโควตาดังกล่าว จะทำให้การดำเนินงานภายใต้กรอบ JTEPA เป็นไปอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้สถานการณ์การส่งออกกล้วยไทยไปญี่ปุ่น ในปี 2550-2552 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จากปริมาณการส่งออก 1,134 ตัน คิดเป็นมูลค่า 29.95 ล้านบาท ในปี 2550 เพิ่มเป็น 2,309 ตัน คิดเป็นมูลค่า 72.59 ล้านบาท ในปี 2552 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 42.69 และ 55.68 ต่อปี ตามลำดับ โดยการส่งออกกล้วยหอมสดมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ในอัตราเฉลี่ยร้อยละ 46.65 และ 57.01 ต่อปี ด้านการส่งออกกล้วยไข่และกล้วยอื่นๆ มีแนวโน้มลดลง โดยมีปริมาณและมูลค่าการส่งออก คิดเป็นร้อยละ 9.67 และ 30.37 เมื่อเทียบกับการส่งออกกล้วยทั้งหมดของประเทศไทย
ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2553
http://www.naewna.com/news.asp?ID=199144
ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
Postharvest Technology Innovation Center
เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology
