͢¢ԷҡѧPostharvest Technology Information NetworkPostharvest TechnologyɵҪԡ͢纺촡ɵҹŧҹԨ

แนะนำหน่วยงาน

  • หน้าหลัก
  • ประชาสัมพันธ์ศูนย์ฯ
  • ความเป็นมา
  • วัตถุประสงค์
  • โครงสร้างการบริหาร
  • คณะกรรมการอำนวยการ
  • คณะกรรมการบริหาร
  • ภาคีสถาบันอุดมศึกษาและวิจัย
  • ติดต่อศูนย์ ฯ

บริการต่าง ๆ

  • PHTNET E-Learning
  • Postharvest Newsletter
  • เครื่องมือวิทยาศาสตร์
  • ห้องปฏิบัติการ
  • รายชื่อผู้ประกอบการ
  • ฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ
  • หลักสูตรวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว
  • รูปภาพความเสียหายหลังการเก็บเกี่ยว
  • มาตรฐานสินค้าเกษตร และระเบียบการส่งออก
  • ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  • สถาบันวิจัยเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  • กรมส่งเสริมการเกตร
  • กรมวิชาการเกษตร
  • สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
  • อุตุนิยมวิทยาเพื่อการเกษตร
  • สมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ
  • ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
  • สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.)

หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน

วิจัยพบตำแหน่งยีน "บีพีเอช3-4" กษ.ต่อยอดพัฒนาพันธุ์ข้าวคุณภาพ ต้านทาน "เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล"

เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 53

วิจัยพบตำแหน่งยีน "บีพีเอช3-4" กษ.ต่อยอดพัฒนาพันธุ์ข้าวคุณภาพ ต้านทาน "เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล"

นางสำลี บุญญาวิวัฒน์ รองอธิบดีกรมการข้าว เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัยข้าวอุบลราชธานี สำนักวิจัยและพัฒนาข้าว กรมการข้าว ประสบความสำเร็จในการใช้เทคโนโลยีชีวภาพช่วยในการค้นหาตำแหน่งยีนบีพีเอช 3 จากพันธุ์ข้าวราตูฮีนาติ (Rathu Heenati) และค้นหาตำแหน่งยีนบีพีเอช 4 จากพันธุ์ข้าวบาบาวี (Babawee) พบว่า ยีนทั้งสองมีตำแหน่งอยู่ใกล้กันบนโครโมโซม 6

ทั้งนี้นักวิจัยของศูนย์วิจัยข้าวอุบลราชธานีได้ใช้เทคนิคเครื่องหมายโมเลกุล เพื่อช่วยในการคัดเลือก ซึ่งไม่ใช่เทคนิคการตัดต่อยีนที่จะทำให้เกิดข้าว GMOs ทำให้ได้สายพันธุ์ข้าวที่มีคุณภาพดีเหมือนพันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 และให้ผลผลิตสูงกว่า มีความต้านทานต่อเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลและเพลี้ยกระโดดหลังขาว ใช้ระยะเวลาศึกษาวิจัยเพียง 5 ปี จากปกติต้องใช้เวลานานถึง 10 ปีหรือมากกว่า เท่ากับเป็นการลดระยะเวลา และลดลักษณะที่ไม่ต้องการที่ติดมากับลักษณะที่ต้องการ

รองอธิบดีกรมการข้าว กล่าวว่า งานวิจัยชิ้นนี้จะก่อให้เกิดผลดีต่อการพัฒนาสายพันธุ์ข้าวของไทยในอนาคต โดยจะเป็นแนวทางการลดระยะเวลาพัฒนาสายพันธุ์ข้าวให้มีความต้านทานต่อเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลและเพลี้ยกระโดดหลังขาว ที่ปัจจุบันนี้ยังเป็นปัญหาของเกษตรกรไทย อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะมีความสำเร็จในการใช้เครื่องหมายโมเลกุลพัฒนาสายพันธุ์ข้าวที่มีคุณภาพดีเหมือนพันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 และต้านทานต่อเพลี้ยกระโดด แต่เนื่องจากเพลี้ยกระโดดก็มีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงประชากรอยู่ตลอดเวลา จนสามารถเข้าทำลายพันธุ์ต้านทานได้เช่นกัน ดังนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องหาแหล่งยีนต้านทานใหม่ๆ มาใช้ในโครงการปรับปรุงพันธุ์อย่างเร่งด่วน โดยขณะนี้ศูนย์วิจัยข้าวอุบลราชธานีกำลังศึกษาหาตำแหน่งยีนต้านทานบนโครโมโซมจากสายพันธุ์ข้าวที่ได้รับยีนต้านทานจากข้าวป่า Oryza minuta และพยายามพัฒนาเครื่องหมายโมเลกุลเพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาสายพันธุ์ข้าวให้ต้านทานต่อเพลี้ยกระโดดต่อไป

ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2553
http://www.naewna.com/news.asp?ID=198957

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • นำเลี้ยงปูนิ่ม-พัฒนาท่องเที่ยว วิถีสร้างอาชีพของ วชช.เพื่อชุมชน
  • 'ไม้ผลแปลกและหายาก' ที่น่าปลูกในปี พ.ศ.2554
  • คาดลำไยปีหน้าราคาพุ่ง "ธีระ" ฟุ้งแผนบริหารจัดการดี มุ่งเน้นเดินตามกลไกตลาด
  • ผลิตปุ๋ยอินทรีย์ใช้เอง ลดต้นทุนการผลิตได้
  • วช.หนุนวิจัยปลานิล "จิตรลดา3" คุณภาพเหมาะเลี้ยงเชิงพาณิชย์
  • บริหารนำเข้ากาแฟสำเร็จรูป สกัดผลกระทบเปิดเสรีอาฟตา กษ.จับตาล้นตลาด-ราคาร่วง
  • วิจัย "ดีเอ็นเอ" แตงกวา มก.พัฒนา ต้านราน้ำค้าง
  • ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    Postharvest Technology Innovation Center

    เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology