͢¢ԷҡѧPostharvest Technology Information NetworkPostharvest TechnologyɵҪԡ͢纺촡ɵҹŧҹԨ

แนะนำหน่วยงาน

  • หน้าหลัก
  • ประชาสัมพันธ์ศูนย์ฯ
  • ความเป็นมา
  • วัตถุประสงค์
  • โครงสร้างการบริหาร
  • คณะกรรมการอำนวยการ
  • คณะกรรมการบริหาร
  • ภาคีสถาบันอุดมศึกษาและวิจัย
  • ติดต่อศูนย์ ฯ

บริการต่าง ๆ

  • PHTNET E-Learning
  • Postharvest Newsletter
  • เครื่องมือวิทยาศาสตร์
  • ห้องปฏิบัติการ
  • รายชื่อผู้ประกอบการ
  • ฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ
  • หลักสูตรวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว
  • รูปภาพความเสียหายหลังการเก็บเกี่ยว
  • มาตรฐานสินค้าเกษตร และระเบียบการส่งออก
  • ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  • สถาบันวิจัยเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  • กรมส่งเสริมการเกตร
  • กรมวิชาการเกษตร
  • สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
  • อุตุนิยมวิทยาเพื่อการเกษตร
  • สมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ
  • ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
  • สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.)

หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน

'แตนเบียน' ศัตรูธรรมชาติกำจัดเพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง

เมื่อวันที่ 26 มกราคม 53

'แตนเบียน' ศัตรูธรรมชาติกำจัดเพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง
การแพร่ระบาดของ เพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง ที่มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้น สร้างความหนักใจให้กับเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังค่อนข้างมาก เพราะมีผลกระทบต่อผลผลิต ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์คาดการณ์ว่า การระบาดอย่างรุนแรงของเพลี้ยแป้งในแหล่งปลูกมันสำปะหลัง 20 จังหวัดในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ผลผลิตมันสำปะหลังลดลงคิดเป็นมูลค่ากว่า 2,800 ล้านบาท ปัจจุบันกรมวิชาการเกษตรเป็นหน่วยงานหนึ่งที่เร่งแก้ไขปัญหาเพื่อช่วยเหลือ เกษตรกร โดยมีแผนควบคุมและกำจัดเพลี้ยแป้งมันสำปะหลังด้วยชีววิธี โดยใช้ “แตนเบียน” Anagyras lopezi ซึ่งเป็นศัตรูธรรมชาติของเพลี้ยแป้ง น่าจะเป็นทางออกที่ดีในการแก้ปัญหาในระยะยาวได้

นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า แตนเบียนที่กรมวิชาการเกษตรนำมาใช้ควบคุมการระบาดของเพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง ในขณะนี้ คือ แตนเบียน A. lopezi นับเป็นแมลงที่มีประโยชน์ สามารถช่วยทำลายเพลี้ยแป้งชนิดสีชมพูได้ เดิมแตนเบียนชนิดนี้มีถิ่นกำเนิดอยู่ในทวีปอเมริกาใต้ นักกีฏวิทยาจากสถาบันวิจัยเกษตรเขตร้อน ประเทศโคลอมเบียสำรวจพบครั้งแรกที่ประเทศปารากวัยและนำไปใช้ควบคุมเพลี้ยแป้งมันสำปะหลังชนิดสีชมพูที่ระบาดในประเทศต่าง ๆ รวม 25 ประเทศในแอฟริกาตะวันตกประสบผลสำเร็จมาแล้ว


เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2552  กรมวิชาการเกษตรได้นำเข้าพ่อ-แม่พันธุ์แตนเบียน A. lopezi จำนวน 500 ตัว จาก สาธารณรัฐเบนิน เพื่อเพาะขยายพันธุ์เพิ่มจำนวนที่ห้องปฏิบัติการของสำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช พร้อมศึกษาทดสอบในห้องปฏิบัติการกักกันแล้วพบว่า มีความปลอดภัยสามารถนำมาใช้ควบคุมเพลี้ยแป้งในประเทศไทยได้ จึงขออนุมัตินำแตนเบียนออกปล่อยเพื่อทดสอบนำร่องในแปลงปลูกมันสำปะหลังภายในศูนย์วิจัยพืชไร่ระยอง ซึ่งเป็นพื้นที่หนึ่งที่พบการระบาด นอกจากนี้ยังจะนำไปปล่อย เพื่อประเมินผลเพิ่มเติมที่สถาบันวิจัยมันสำปะหลังแห่งประเทศไทย (ห้วยบง) และศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรนครราชสีมา โดยจะติดตามประเมินผลความสามารถในการอยู่รอดของแตนเบียนอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะสามารถทราบผลได้ภายใน 6 เดือน ทั้งยังจะประเมินประสิทธิภาพในการควบคุมเพลี้ยแป้งด้วย ซึ่งคาดว่าจะสามารถทราบผลได้ในเวลาประมาณ 1 ปี ภายหลังการปล่อย

“การใช้แตนเบียนควบคุมเพลี้ยแป้ง เป็นการใช้ประโยชน์จากการควบคุมศัตรูพืชโดยธรรมชาติ ไม่มีอันตรายต่อคน สัตว์ และสภาพแวดล้อม ซึ่งอาจต้องใช้ระยะเวลานานเพื่อรอให้เห็นผลในการควบคุมแต่ผลสำเร็จที่เกิดขึ้นจะเกิดความยั่งยืน”

แตนเบียน A. Lopezi จะทำลายทั้งตัวอ่อนและตัวเต็มวัยของเพลี้ยแป้ง ระยะเวลาตั้งแต่วางไข่ถึงตัวเต็มวัยเจาะออกจากมัมมี่ ประมาณ 17-20 วัน  ซึ่งแตนเบียน 1 ตัว จะสามารถฆ่าและทำลายเพลี้ยแป้งได้วันละ 20-30 ตัว ขึ้นกับขนาดของเพลี้ยแป้งที่ถูกกิน และลงเบียนเพลี้ยแป้งได้วันละ 15-20 ตัว อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันกรมวิชาการเกษตรได้เตรียมการถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีเกี่ยว กับการเพาะขยายพันธุ์แตนเบียน A. lopezi ให้กับกรมส่งเสริมการเกษตร ภายใต้โครงการการจัดการเพลี้ยแป้งมันสำปะหลังของกระทรวงเกษตรฯ เพื่อเพิ่มจำนวนมากขึ้นและนำไปใช้ควบคุมการระบาดของเพลี้ยแป้งไม่ให้สร้างความเสียหายเป็นวงกว้างขึ้นเป้าหมายจำนวน 2.7 ล้านตัว คาดว่าน่าจะช่วยแก้ไขปัญหาให้เกษตรกรได้ในระยะยาว.

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 26 มกราคม 2553
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=344&contentID=44758

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • นำเลี้ยงปูนิ่ม-พัฒนาท่องเที่ยว วิถีสร้างอาชีพของ วชช.เพื่อชุมชน
  • 'ไม้ผลแปลกและหายาก' ที่น่าปลูกในปี พ.ศ.2554
  • คาดลำไยปีหน้าราคาพุ่ง "ธีระ" ฟุ้งแผนบริหารจัดการดี มุ่งเน้นเดินตามกลไกตลาด
  • ผลิตปุ๋ยอินทรีย์ใช้เอง ลดต้นทุนการผลิตได้
  • วช.หนุนวิจัยปลานิล "จิตรลดา3" คุณภาพเหมาะเลี้ยงเชิงพาณิชย์
  • บริหารนำเข้ากาแฟสำเร็จรูป สกัดผลกระทบเปิดเสรีอาฟตา กษ.จับตาล้นตลาด-ราคาร่วง
  • วิจัย "ดีเอ็นเอ" แตงกวา มก.พัฒนา ต้านราน้ำค้าง
  • ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    Postharvest Technology Innovation Center

    เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology