͢¢ԷҡѧPostharvest Technology Information NetworkPostharvest TechnologyɵҪԡ͢纺촡ɵҹŧҹԨ

แนะนำหน่วยงาน

  • หน้าหลัก
  • ประชาสัมพันธ์ศูนย์ฯ
  • ความเป็นมา
  • วัตถุประสงค์
  • โครงสร้างการบริหาร
  • คณะกรรมการอำนวยการ
  • คณะกรรมการบริหาร
  • ภาคีสถาบันอุดมศึกษาและวิจัย
  • ติดต่อศูนย์ ฯ

บริการต่าง ๆ

  • PHTNET E-Learning
  • Postharvest Newsletter
  • เครื่องมือวิทยาศาสตร์
  • ห้องปฏิบัติการ
  • รายชื่อผู้ประกอบการ
  • ฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ
  • หลักสูตรวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว
  • รูปภาพความเสียหายหลังการเก็บเกี่ยว
  • มาตรฐานสินค้าเกษตร และระเบียบการส่งออก
  • ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  • สถาบันวิจัยเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  • กรมส่งเสริมการเกตร
  • กรมวิชาการเกษตร
  • สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
  • อุตุนิยมวิทยาเพื่อการเกษตร
  • สมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ
  • ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
  • สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.)

หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน

'ไต้หวัน' แหล่งผลิตฟาแลนน๊อปซิส

เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 53

'ไต้หวัน' แหล่งผลิตฟาแลนน๊อปซิส

ในบรรดาประเทศที่ผลิตกล้วยไม้เพื่อการส่งออก ไทยนับเป็นประเทศที่มีการส่งออกกล้วยไม้ สกุลหวายมากที่สุดในโลกและนำเงินตราเข้าประเทศนับหมื่นล้านบาทต่อปี ในขณะที่ “ไต้หวัน” เป็นแหล่งผลิตกล้วยไม้สกุลฟาแลนน๊อปซิสที่ยิ่งใหญ่แห่งหนึ่ง โดยเฉพาะที่ อ.ไทนาน

ที่นี่มีการผลิตกล้วยไม้เพื่อการส่งออกโดยประเทศที่สั่งซื้อมากที่สุด 5 อันดับแรกในปัจจุบันคือ สหรัฐอเมริกา, ญี่ปุ่น, ฮอลแลนด์, เยอรมนีและแคนาดา ตามลำดับ เป็นที่สังเกตว่าฟาแลนน๊อปซิสดอกสีขาวได้รับความนิยมมากที่สุดคือประมาณ 60% ของปริมาณการส่งออกทั้งหมด ที่เหลืออีก 40% จะเป็นสีอื่น ๆ ต้นกล้วยไม้ที่ทำการส่งออกนั้นจะมีจำนวนใบ 4 ใบ และเมื่อไปถึงปลายทาง เช่น สหรัฐอเมริกาและยุโรปจะต้องนำต้นกล้วยไม้ไปเลี้ยงต่อในห้องเย็นที่มี อุณหภูมิเฉลี่ยในช่วงกลางคืน 15 องศาเซลเซียสและกลางวัน 28 องศาเซลเซียส เป็นเวลาประมาณ 2 เดือน ถึงจะออกดอกและนำออกจำหน่าย สำหรับกล้วยไม้ตกเกรดทางบริษัทจะส่งขายในตลาดไต้หวัน

หลายคนยังไม่ทราบว่าอาชีพเกษตรกรรมในไต้หวันจะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลทุกอาชีพ รวมถึงการปลูกเลี้ยงกล้วยไม้ด้วย โดยรัฐบาลจะสนับสนุนเรื่องที่ดิน ส่วนการลงทุนเรื่องโรงเรือนเกษตรกรหรือภาคเอกชนจะต้องลงทุนเอง สภาพโรงเรือนกล้วยไม้แห่งนี้ใช้ เงินลงทุนค่าสร้างโรงเรือนและใช้ระบบคอมพิวเตอร์ควบคุมทั้งหมดเป็นเงิน ประมาณ 200 ล้านบาท (พื้นที่ของโรงเรือนจำนวน 15 ไร่) รวมถึงค่าต้นพันธุ์และการดูแลรักษา ในแต่ละโรงเรือนจะปลูกต้นกล้วยไม้ฟาแลนน๊อปซิสได้ถึง 800,000 ต้น เป็นเงินประมาณ 200 ล้านบาท และในแต่ละโรงเรือนจะมีอายุการใช้งานได้ถึง 20 ปีและจะคืนทุนภายใน 8 ปี

วัสดุที่ใช้ปลูกกล้วยไม้ฟาแลน น๊อปซิสเพื่อการส่งออกหญ้าชิลีซึ่งเป็น วัสดุปลูกที่มีคุณภาพดีและอุ้มน้ำได้นาน ในการส่งออกต้นกล้วยไม้ฟาแลนน๊อปซิส จะมีดินติดไปไม่ได้แม้แต่เปลือกไม้ก็ไม่ได้ ในเรื่องของการให้ปุ๋ยและน้ำจะถูกควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ สำหรับโรคที่เกิดจาก เชื้อราชนิดต่าง ๆ จะมีผู้เชี่ยวชาญมาตรวจดูทุกวัน แต่ปัญหาที่ยังแก้ไขไม่ตกใน ขณะนี้คือปัญหาโลกร้อนได้กระทบต่อการปลูกกล้วยไม้ฟาแลนน๊อปซิส ในปีนี้ (พ.ศ. 2553) ไต้หวันมีอุณหภูมิสูงสุดถึง 37 องศาเซลเซียสมีผลทำให้ต้นกล้วยไม้เหี่ยวและตายในที่สุด.

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 28 ตุลาคม 2553
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=568&contentID=100565

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • นำเลี้ยงปูนิ่ม-พัฒนาท่องเที่ยว วิถีสร้างอาชีพของ วชช.เพื่อชุมชน
  • 'ไม้ผลแปลกและหายาก' ที่น่าปลูกในปี พ.ศ.2554
  • คาดลำไยปีหน้าราคาพุ่ง "ธีระ" ฟุ้งแผนบริหารจัดการดี มุ่งเน้นเดินตามกลไกตลาด
  • ผลิตปุ๋ยอินทรีย์ใช้เอง ลดต้นทุนการผลิตได้
  • วช.หนุนวิจัยปลานิล "จิตรลดา3" คุณภาพเหมาะเลี้ยงเชิงพาณิชย์
  • บริหารนำเข้ากาแฟสำเร็จรูป สกัดผลกระทบเปิดเสรีอาฟตา กษ.จับตาล้นตลาด-ราคาร่วง
  • วิจัย "ดีเอ็นเอ" แตงกวา มก.พัฒนา ต้านราน้ำค้าง
  • ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    Postharvest Technology Innovation Center

    เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology