͢¢ԷҡѧPostharvest Technology Information NetworkPostharvest TechnologyɵҪԡ͢纺촡ɵҹŧҹԨ

แนะนำหน่วยงาน

  • หน้าหลัก
  • ประชาสัมพันธ์ศูนย์ฯ
  • ความเป็นมา
  • วัตถุประสงค์
  • โครงสร้างการบริหาร
  • คณะกรรมการอำนวยการ
  • คณะกรรมการบริหาร
  • ภาคีสถาบันอุดมศึกษาและวิจัย
  • ติดต่อศูนย์ ฯ

บริการต่าง ๆ

  • PHTNET E-Learning
  • Postharvest Newsletter
  • เครื่องมือวิทยาศาสตร์
  • ห้องปฏิบัติการ
  • รายชื่อผู้ประกอบการ
  • ฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ
  • หลักสูตรวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว
  • รูปภาพความเสียหายหลังการเก็บเกี่ยว
  • มาตรฐานสินค้าเกษตร และระเบียบการส่งออก
  • ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  • สถาบันวิจัยเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  • กรมส่งเสริมการเกตร
  • กรมวิชาการเกษตร
  • สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
  • อุตุนิยมวิทยาเพื่อการเกษตร
  • สมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ
  • ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
  • สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.)

หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน

รวมกลุ่มปลูก "ผักอินทรีย์" ทำเงิน ทางลดต้นทุนเกษตรกรอ่าวน้อย

เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 53

รวมกลุ่มปลูก "ผักอินทรีย์" ทำเงิน ทางลดต้นทุนเกษตรกรอ่าวน้อย

อาจกล่าวได้ว่าอาชีพเกษตรกรที่ใช้ระยะเวลาสั้นและได้เงินเร็ว คงหนีไม่พ้น “การปลูกผัก” แต่นั่นก็หมายถึงการแบกรับภาระหน้าที่ที่หนักหน่วง โดยเฉพาะเรื่องต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ซึ่งสวนทางกับราคาผลผลิตที่คงเดิมหรืออาจจะลดลงเสียด้วยซ้ำ โดยส่วนต่างตรงจุดนี้ผู้ที่ต้องแบกรับภาระเอาไว้ก็คือ “เกษตรกร”


ปัญหาต้นทุนการผลิตสูงที่สวนทางกับราคาผลผลิตมักจะเกิดกับเกษตรกรส่วนใหญ่ รวมถึงครอบครัว "สายฟ้า แก้วมรกฏ" เกษตรกรผู้ปลูกผักใน ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ แต่หลังได้จับมือกับเพื่อนบ้านร่วมกันค้นหาวิธีลดต้นทุนการผลิตได้สำเร็จและมีประสิทธิภาพ โดยได้รับการสนับสนุนจากสถานีพัฒนาที่ดินประจวบคีรีขันธ์ ทำให้ชีวิตในวันนี้กลับมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นตามลำดับ

สายฟ้า เล่าว่า ตนเองมีอาชีพปลูกผักขายมานานกว่า 7 ปีแล้ว เรียกว่าเป็นรุ่นบุกเบิกในพื้นที่นี้ก็ว่าได้ โดยสมัยก่อนก็ปลูกแบบทั่วๆ ไป ต่างคนต่างทำ และมักจะนิยมการใช้ปุ๋ยเคมีจำนวนมาก เพราะจะช่วยให้ผักเจริญงอกงามได้เร็วทันตา แต่ก็เป็นเพียงผลในระยะสั้นๆ เท่านั้น โดยที่หารู้ไม่ว่าผลเสียที่กำลังตามมาก็คือ ปัญหาเรื่องดินเสื่อมโทรม ซึ่งจะส่งผลเสียต่อการเพาะปลูกในระยะยาว โดยเฉพาะปัจจุบันปุ๋ยและสารเคมีมีราคาแพง ยิ่งส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตของเกษตรกรอย่างมาก

จากนั้นในปี 2551 ชาวบ้านจึงได้รวมตัวกันปรึกษาหารือเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว จนได้ข้อสรุปว่าจะช่วยกันทำปุ๋ยหมัก น้ำหมักชีวภาพ และน้ำส้มควันไม้ไว้ใช้ในกลุ่มเพื่อลดหรือทดแทนการใช้ปุ๋ยเคมีและสารเคมี โดยได้รับคำปรึกษาจากเจ้าหน้าที่สถานีพัฒนาที่ดินประจวบคีรีขันธ์และหมอดินอาสาใกล้บ้านช่วยแนะนำหรือประสานงานกับสถานีพัฒนาที่ดินในจังหวัด

"เมื่อมีความรู้เรื่องการทำเกษตรโดยพึ่งพาสารอินทรีย์มากพอ ก็เริ่มที่จะนำมาใช้ในแปลงผักของตัวเองบนเนื้อที่ 5 ไร่เศษ มีผักปลูกหลายชนิด ได้แก่ ผักกาดขาวปลี กะหล่ำปลี มะระจีน ถั่วฝักยาว และผักชี สลับหมุนเวียนกันไป โดยแบ่งพื้นที่การเพาะปลูกผักแต่ละชนิดประมาณ 1 ไร่"

สายฟ้า อธิบายถึงขั้นตอนการปลูกผัก โดยยกตัวอย่างผักกาดขาวปลีจะเริ่มตั้งแต่การเตรียมดิน โดยไถและคราดดิน แล้วตากดินไว้ 5-7 วัน จากนั้นนำปุ๋ยหมักมาหว่านอย่างน้อยไร่ละ 1 ตัน แต่ถ้าจะให้ได้ผลดีต้องหว่านถึง 3 ตัน หลังจากเตรียมพื้นที่เสร็จแล้วนำน้ำหมักชีวภาพปริมาณ 5 ลิตร ผสมกับน้ำ 200 ลิตร ฉีดพ่นลงบนพื้นที่ได้ 1 ไร่ แล้วจึงเริ่มหว่านหรือหยอดเมล็ดผัก ซึ่งผักกาดขาวปลีเป็นพืชที่ต้องการน้ำมากและสม่ำเสมอ เพื่อใช้ในการเจริญเติบโตตลอดฤดูการปลูก ดังนั้นควรให้น้ำอย่างเพียงพอโดยเฉพาะในช่วงเข้าปลี


ส่วนเรื่องโรคและแมลง มักจะพบการระบาดมากในช่วงหน้าแล้ง ทั้งผีเสื้อหนอนใยผัก แมลงหวี่ขาว เพลี้ยไฟ จะใช้น้ำส้มควันไม้ฉีดพ่นทุกๆ 7 วัน เพื่อช่วยขับไล่แมลงและป้องกันการเกิดเชื้อรา แต่ถ้าเอาไม่อยู่ก็จำเป็นต้องใช้สารเคมีเข้าช่วยบ้าง ดังนั้นในส่วนของสารเคมีก็จะลดปริมาณการใช้ได้มากถึง 70% นอกจากนี้ยังเสริมด้วยการฉีดพ่นน้ำหมักชีวภาพอีกทางหนึ่ง

หลังปลูกผักกาดขาวปลีได้ 1 เดือนครึ่ง จึงจะเริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ และจะเก็บได้นานถึงครึ่งเดือนจึงจะหมดรุ่น โดยมีผลผลิตรวมเฉลี่ยประมาณ 3,000-4,000 กิโลกรัมต่อไร่ต่อรอบการผลิต ราคาจำหน่ายปัจจุบันสนนกิโลกรัมละ 4-5 บาท

แต่ปัญหาสำคัญที่สุดคือเรื่องตลาด โดยสายฟ้าบอกว่า ตอนนี้ถือว่าตนและสมาชิกในกลุ่มยังเป็นรองพ่อค้าคนกลาง ซึ่งพวกเราไม่สามารถเลือกตลาดจำหน่ายผลผลิตเองได้ เนื่องจากความห่างไกลจากตลาดและแหล่งชุมชน แต่ก็ยังโชคดีที่พวกเรามีต้นทุนการผลิตที่ต่ำลง ทำให้พอมีกำไรเหลือเก็บอยู่บ้าง รวมถึงยังมีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม ส่วนเกษตรกรที่สนใจแนวทางการปลูกผักที่สามารถลดต้นทุน เพิ่มรายได้และปลอดภัยต่อผู้ผลิตผู้บริโภค และเป็นที่ต้องการของตลาดอย่าง สายฟ้า แก้วมรกฏ สามารถสอบถามข้อมูลได้ที่โทร.08-7058-9350 ตลอดเวลา

ที่มา : หนังสือพิมพ์คม ชัด ลึก วันที่ 7 ตุลาคม 2553
http://www.komchadluek.net/detail/20101007/75516/รวมกลุ่มปลูกผักอินทรีย์ทำเงินทางลดต้นทุนเกษตรกรอ่าวน้อย.html

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • นำเลี้ยงปูนิ่ม-พัฒนาท่องเที่ยว วิถีสร้างอาชีพของ วชช.เพื่อชุมชน
  • 'ไม้ผลแปลกและหายาก' ที่น่าปลูกในปี พ.ศ.2554
  • คาดลำไยปีหน้าราคาพุ่ง "ธีระ" ฟุ้งแผนบริหารจัดการดี มุ่งเน้นเดินตามกลไกตลาด
  • ผลิตปุ๋ยอินทรีย์ใช้เอง ลดต้นทุนการผลิตได้
  • วช.หนุนวิจัยปลานิล "จิตรลดา3" คุณภาพเหมาะเลี้ยงเชิงพาณิชย์
  • บริหารนำเข้ากาแฟสำเร็จรูป สกัดผลกระทบเปิดเสรีอาฟตา กษ.จับตาล้นตลาด-ราคาร่วง
  • วิจัย "ดีเอ็นเอ" แตงกวา มก.พัฒนา ต้านราน้ำค้าง
  • ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    Postharvest Technology Innovation Center

    เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology