͢¢ԷҡѧPostharvest Technology Information NetworkPostharvest TechnologyɵҪԡ͢纺촡ɵҹŧҹԨ

แนะนำหน่วยงาน

  • หน้าหลัก
  • ประชาสัมพันธ์ศูนย์ฯ
  • ความเป็นมา
  • วัตถุประสงค์
  • โครงสร้างการบริหาร
  • คณะกรรมการอำนวยการ
  • คณะกรรมการบริหาร
  • ภาคีสถาบันอุดมศึกษาและวิจัย
  • ติดต่อศูนย์ ฯ

บริการต่าง ๆ

  • PHTNET E-Learning
  • Postharvest Newsletter
  • เครื่องมือวิทยาศาสตร์
  • ห้องปฏิบัติการ
  • รายชื่อผู้ประกอบการ
  • ฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ
  • หลักสูตรวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว
  • รูปภาพความเสียหายหลังการเก็บเกี่ยว
  • มาตรฐานสินค้าเกษตร และระเบียบการส่งออก
  • ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  • สถาบันวิจัยเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  • กรมส่งเสริมการเกตร
  • กรมวิชาการเกษตร
  • สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
  • อุตุนิยมวิทยาเพื่อการเกษตร
  • สมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ
  • ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
  • สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.)

หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน

ระวัง "เพลี้ยกระโดดหลังขาว" จีน-เวียดนามเสียหายมาแล้ว

เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 53

ระวัง "เพลี้ยกระโดดหลังขาว" จีน-เวียดนามเสียหายมาแล้ว

ศูนย์ปฏิบัติการติดตามสถานการณ์ข้าว กรมการข้าว ได้รายงาน สถานการณ์ศัตรูข้าวในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ขณะนี้ได้ตรวจพบการระบาด เพลี้ยกระโดดหลังขาว ในแปลงนาของเกษตรกรบางพื้นที่ในภาคเหนือและน่าเป็นห่วง การใช้สารฆ่าแมลงที่ไม่ถูกต้องของเกษตรกรโดยเฉพาะ การใช้สารฆ่าแมลงที่ทางราชการไม่ได้ให้คำแนะนำอาจส่งผลให้เกิดการระบาดของเพลี้ยกระโดดหลังขาวรุนแรงขึ้น รวมทั้งการระบาดของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลที่มีแนวโน้มเคลื่อนย้ายไปตามทิศทางลมจากพื้นที่ภาคกลาง


นายประเสริฐ โกศัลวิตร อธิบดีกรมการข้าว เปิดเผยว่า เพลี้ยกระโดดหลังขาว (White Backed Plant Hopper : WBPH) ตัวเต็มวัยคล้ายกับเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ต่างกันที่ปีกมีจุดดำที่กลางและปลายปีก และมีแถบสีขาวตรงส่วนอกระหว่างฐานปีกทั้งสอง มีทั้งชนิดปีกสั้นและปีกยาว ทั้งตัวอ่อนและตัวเต็มวัยอาศัยอยู่บริเวณโคนต้นข้าว เช่นเดียวกับเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ตัวเต็มวัยเข้ามาในแปลงข้าวช่วง 30 วันแรกหลังจากเป็นต้นกล้า พบเป็นแมลงประจำท้องถิ่นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือตอนบนมากกว่าภาคกลาง ในหนึ่งฤดูปลูกเพลี้ยกระโดดหลังขาวเจริญเติบโตขยายพันธุ์ได้น้อยกว่าเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลและชอบดูดกินน้ำเลี้ยงจากต้นข้าวอ่อน และขยายพันธุ์เป็นพวกปีกยาว จากนั้นจะอพยพออกจากแปลงข้าวก่อนที่ข้าวจะออกดอก

ตัวอ่อนและตัวเต็มวัยเพลี้ยกระโดดหลังขาว ดูดกินน้ำเลี้ยงบริเวณโคนต้นข้าว ต้นข้าวที่ถูกทำลายแสดงอาการใบมีสีเหลืองส้มซึ่งต่างจากต้นข้าวที่ถูกเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลทำลายจะแสดงอาการใบสีน้ำตาลแห้งเมื่อมีปริมาณแมลงมาก ต้นข้าวอาจจะถูกทำลายจนเหี่ยวและแห้งตายในที่สุด การระบาดค่อนข้างกระจายสม่ำเสมอเป็นพื้นที่กว้าง ซึ่งแตกต่างจากเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลที่การระบาดทำลายข้าวจะเป็นหย่อม ๆ พบระบาดตั้งแต่ระยะกล้าถึงระยะออกรวง

การป้องกันกำจัด

1) ปลูกข้าวพันธุ์ต้านทาน เช่น สุพรรณบุรี 1 สุพรรณบุรี 3 ชัยนาท 1 พิษณุโลก 2 กข31 กข37 และชุมแพ 60 โดยปลูกสลับกัน อย่างน้อย 2 พันธุ์ ไม่ควรปลูกติดต่อกันเกิน 4 ฤดูปลูก
2) ไม่ใช้สารที่มีพิษสูงต่อมวนเขียวดูดไข่ ศัตรูธรรมชาติที่สำคัญในระยะไข่ ซึ่งจะช่วยทำลายไข่เพลี้ยกระโดดที่วางในกาบใบข้าวมักพบในระยะข้าวหลังหว่าน
3) ใช้สารฆ่าแมลง เมื่อตรวจพบตัวอ่อน จำนวนมากกว่า 10 ตัวต่อต้น ให้ใช้สารฆ่าแมลง บูโพรเฟซิน หรือ สารบูโพรเฟซิน/ไอโซโปรคาร์บ หรือสารอีโทเฟนพรอกซ์ หรือ อิทิโพรลเมื่อพบแมลงส่วนใหญ่เป็นตัวเต็มวัยจำนวนมากกว่า 1 ตัวต่อต้น ในระยะข้าวตั้งท้องถึงออกรวงใช้ สารอิทิโพรล หรือ สารไดโนทีฟูเรน หรือไทอะมิโตแซม


แมลงชนิดนี้นักวิจัยจากประเทศจีนรายงานว่าพบเป็น พาหะนำโรค Rice Black Streak Dwarf Virus-2 (RBSDV-2) Southern Rice Black-Streaked Dwarf Virus (SRBSDV) ซึ่งเชื้อสาเหตุคือ fijivirus พบในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน และสาธารณรัฐ สังคมนิยมเวียดนาม ส่วนมากพบในข้าวพันธุ์ลูกผสมแต่ยังไม่มีรายงานว่า พบโรคไวรัสชนิดนี้ ในประเทศไทย

อย่างไรก็ตาม เกษตรกรที่มีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการชาวนา 50 แห่งใกล้บ้าน หรือศูนย์อำนวยการควบคุมกำจัดเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โทร. 0-2561-3220 หรือ อีเมล bph@ ricethailand.go.th.

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 5 ตุลาคม 2553
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=344&contentID=96027

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • นำเลี้ยงปูนิ่ม-พัฒนาท่องเที่ยว วิถีสร้างอาชีพของ วชช.เพื่อชุมชน
  • 'ไม้ผลแปลกและหายาก' ที่น่าปลูกในปี พ.ศ.2554
  • คาดลำไยปีหน้าราคาพุ่ง "ธีระ" ฟุ้งแผนบริหารจัดการดี มุ่งเน้นเดินตามกลไกตลาด
  • ผลิตปุ๋ยอินทรีย์ใช้เอง ลดต้นทุนการผลิตได้
  • วช.หนุนวิจัยปลานิล "จิตรลดา3" คุณภาพเหมาะเลี้ยงเชิงพาณิชย์
  • บริหารนำเข้ากาแฟสำเร็จรูป สกัดผลกระทบเปิดเสรีอาฟตา กษ.จับตาล้นตลาด-ราคาร่วง
  • วิจัย "ดีเอ็นเอ" แตงกวา มก.พัฒนา ต้านราน้ำค้าง
  • ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    Postharvest Technology Innovation Center

    เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology