͢¢ԷҡѧPostharvest Technology Information NetworkPostharvest TechnologyɵҪԡ͢纺촡ɵҹŧҹԨ

แนะนำหน่วยงาน

  • หน้าหลัก
  • ประชาสัมพันธ์ศูนย์ฯ
  • ความเป็นมา
  • วัตถุประสงค์
  • โครงสร้างการบริหาร
  • คณะกรรมการอำนวยการ
  • คณะกรรมการบริหาร
  • ภาคีสถาบันอุดมศึกษาและวิจัย
  • ติดต่อศูนย์ ฯ

บริการต่าง ๆ

  • PHTNET E-Learning
  • Postharvest Newsletter
  • เครื่องมือวิทยาศาสตร์
  • ห้องปฏิบัติการ
  • รายชื่อผู้ประกอบการ
  • ฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ
  • หลักสูตรวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว
  • รูปภาพความเสียหายหลังการเก็บเกี่ยว
  • มาตรฐานสินค้าเกษตร และระเบียบการส่งออก
  • ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  • สถาบันวิจัยเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  • กรมส่งเสริมการเกตร
  • กรมวิชาการเกษตร
  • สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
  • อุตุนิยมวิทยาเพื่อการเกษตร
  • สมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ
  • ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
  • สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.)

หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน

เตือนเกษตรกรปรับตัวรับภัยพิบัติ สศก.ชี้แนวโน้มรุนแรงต่อเนื่อง เปิดวิจัยอุณภูมิยิ่งสูงข้าวยิ่งลด

เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 53

เตือนเกษตรกรปรับตัวรับภัยพิบัติ สศก.ชี้แนวโน้มรุนแรงต่อเนื่อง เปิดวิจัยอุณภูมิยิ่งสูงข้าวยิ่งลด

นายอภิชาต จงสกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยถึงสถานการณ์ภัยธรรมชาติที่ส่งผลกระทบต่อภาคเกษตรว่า ผลกระทบส่วนใหญ่ขณะนี้มาจากภาวะโลกร้อน ซึ่งทำให้ผลผลิตทางการเกษตรได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ยังมีการเกิดปรากฏการณ์ลานีญา ที่ทำให้อุณหภูมิผิวน้ำทะลต่ำกว่าปกติ โดยกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าปรากฏการณ์ดังกล่าวจะส่งผลให้ช่วงเดือน สิงหาคม-ตุลาคมนี้ ประเทศไทยตอนบนจะมีปริมาณฝนตกมากกว่าปกติ ส่วนพื้นที่ภาคใต้จะมีฝนตกมากกว่าปกติไปจนถึงปลายปี

นายอภิชาต กล่าวต่อว่า กระทรวงเกษตรฯได้เตรียมความพร้อมในการรับมือกับสภาวะโลกร้อน ซึ่งที่ผ่านมามีการจัดทำแผนบรรเทาภาวะโลกร้อนทางการเกษตรมาตั้งแต่ปี 2550 แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่มีการขับเคลื่อนตามแผนงานที่ตั้งไว้อย่างเป็นรูปธรรมมากนัก ดังนั้นจึงต้องเร่งรัดให้เกิดการปฏิบัติตามแผนให้มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าภัยธรรมชาติจะเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ แต่สามารถเตรียมการรับมือได้ โดยเฉพาะเกษตรกรที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมหรือแล้งซ้ำซาก ควรปรับเปลี่ยนระบบการผลิต เปลี่ยนปฏิทินการเพาะปลูกให้สอดคล้องกับสภาพอากาศมากขึ้น เช่น อาจจะเลื่อนการเพาะปลูกให้เร็วขึ้นหรือเลื่อนออกไปจากช่วงเวลาที่เสี่ยง และควรติดตามการแจ้งเตือนภัยจากหน่วยงานภาครัฐ เพื่อลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ส่วนในเรื่องข้อมูลเตือนภัยนั้น กระทรวงเกษตรฯตระหนักดีว่าเป็นสิ่งสำคัญจึงต้องมีการพัฒนาระบบฐานข้อมูลให้ มีความถูกต้อง แม่นยำและน่าเชื่อถือมากที่สุด

นอกจากนี้ จากผลการวิจัยพบว่าอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น 1-2 องศา จะทำให้ผลผลิตข้าวลดลงได้ถึง 20% ยังไม่รวมความเสียหายจากเรื่องน้ำท่วม ภัยแล้งและโรคแมลงศัตรูพืชระบาด ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางอาหารของประเทศได้ ดังนั้นสิ่งที่กระทรวงเกษตรฯต้องเร่งดำเนินการ คือ การพัฒนาพันธุ์พืชที่มีความต้านทานต่อภาวะอุณหภูมิที่สูงขึ้น ต้านทานโรคและแมลง หรือพันธุ์พืชที่ทนแล้ง ทนน้ำท่วมขัง เพื่อเพิ่มโอกาสในการอยู่รอดของเกษตรกรและภาคเกษตรไทย

ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 4 ตุลาคม 2553
http://www.naewna.com/news.asp?ID=230593

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • นำเลี้ยงปูนิ่ม-พัฒนาท่องเที่ยว วิถีสร้างอาชีพของ วชช.เพื่อชุมชน
  • 'ไม้ผลแปลกและหายาก' ที่น่าปลูกในปี พ.ศ.2554
  • คาดลำไยปีหน้าราคาพุ่ง "ธีระ" ฟุ้งแผนบริหารจัดการดี มุ่งเน้นเดินตามกลไกตลาด
  • ผลิตปุ๋ยอินทรีย์ใช้เอง ลดต้นทุนการผลิตได้
  • วช.หนุนวิจัยปลานิล "จิตรลดา3" คุณภาพเหมาะเลี้ยงเชิงพาณิชย์
  • บริหารนำเข้ากาแฟสำเร็จรูป สกัดผลกระทบเปิดเสรีอาฟตา กษ.จับตาล้นตลาด-ราคาร่วง
  • วิจัย "ดีเอ็นเอ" แตงกวา มก.พัฒนา ต้านราน้ำค้าง
  • ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    Postharvest Technology Innovation Center

    เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology