͢¢ԷҡѧPostharvest Technology Information NetworkPostharvest TechnologyɵҪԡ͢纺촡ɵҹŧҹԨ

แนะนำหน่วยงาน

  • หน้าหลัก
  • ประชาสัมพันธ์ศูนย์ฯ
  • ความเป็นมา
  • วัตถุประสงค์
  • โครงสร้างการบริหาร
  • คณะกรรมการอำนวยการ
  • คณะกรรมการบริหาร
  • ภาคีสถาบันอุดมศึกษาและวิจัย
  • ติดต่อศูนย์ ฯ

บริการต่าง ๆ

  • PHTNET E-Learning
  • Postharvest Newsletter
  • เครื่องมือวิทยาศาสตร์
  • ห้องปฏิบัติการ
  • รายชื่อผู้ประกอบการ
  • ฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ
  • หลักสูตรวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว
  • รูปภาพความเสียหายหลังการเก็บเกี่ยว
  • มาตรฐานสินค้าเกษตร และระเบียบการส่งออก
  • ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  • สถาบันวิจัยเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  • กรมส่งเสริมการเกตร
  • กรมวิชาการเกษตร
  • สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
  • อุตุนิยมวิทยาเพื่อการเกษตร
  • สมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ
  • ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
  • สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.)

หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน

วิจัย "มายคอร์ไรซา" ในดิน กระตุ้นราก พืชทนสภาพแวดล้อม

เมื่อวันที่ 27 กันยายน 53

วิจัย "มายคอร์ไรซา" ในดิน กระตุ้นราก พืชทนสภาพแวดล้อม

เมื่อกลุ่มผู้บริโภคเริ่มให้ความสำคัญกับเกษตรที่เป็น "อินทรีย์" มากขึ้น ส่งผลให้กลุ่มผู้ผลิตทั้งที่เป็นเกษตรกรมืออาชีพ และภาคเอกชนผู้ส่งออกต่างหันหาวิธีแนวทางการผลิตที่ปลอดสาร ไม่ทำลายสภาพแวดล้อม โดยที่พืชมีการเจริญเติบโตที่สมบูรณ์แข็งแรง


ฉะนี้ เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือก ศ.ดร.สายสมร ลำยอง อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จึงได้ทำการวิจัย "การพัฒนามายคอร์ไรซาเพื่อเกษตรอินทรีย์" ขึ้น โดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) สนับสนุนทุน

สำหรับ "เชื้อรามายคอร์ไรซา" มีประโยชน์ต่อการช่วยป้องกันการติดเชื้อโรคทางระบบรากของกล้าไม้ และต้นไม้ ช่วยเพิ่มพื้นที่ผิวของราก ทำให้มีประสิทธิภาพในการดูดซับน้ำ อาหารมากกว่าปกติ ช่วยทำให้เกิดการหมุนเวียนของธาตุอาหารในดินดีขึ้น ช่วยเปลี่ยนแปลงแร่ธาตุอาหารในดิน ช่วยทำให้ระบบรากของต้นไม้ มีความแข็งแรง ทนทานต่อสภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง อาทิ ความแห้งแล้ง ร้อน หนาว และสารพิษ ความเป็นกรดด่างที่มากหรือน้อยเกินไปในดิน

ศ.ดร.สายสมร บอกว่า วิธีบำรุงดินที่มีประสิทธิภาพสามารถทำได้หลายวิธี อย่างการใช้จุลินทรีย์กลุ่มไรโซเบียมและหัวเชื้อจากรามายคอร์ไรซา ซึ่งนอกจากจะช่วยลดผลกระทบจากการใช้สารเคมีสังเคราะห์อย่างยั่งยืน ต้นพืชยังมีความแข็งแรง ซึ่งยังไม่เป็นที่นิยมแพร่หลายในกลุ่มเกษตรกรมากนัก สาเหตุเป็นเพราะยังขาดความเข้าใจกลไกความสัมพันธ์ การทำหน้าที่ของพืชกับจุลินทรีย์ที่มีอยู่แล้วในธรรมชาติ แต่ถูกทำลายไปด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์จากแนวทางการผลิตที่ผ่านมา

"ที่ผ่านมามีบริษัทเอกชนหลายรายสั่งนำเข้า "มายคอร์ไรซา" เพื่อมาใช้บำรุงกล้าส้ม กล้าสน และพืชผัก โดยเชื้อดังกล่าวสนนราคาซื้อขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 1,200 บาท ทั้งนี้ จากการสำรวจพบว่าเชื้อดังกล่าวสามารถนำมาใช้กับพืชเศรษฐกิจได้หลายชนิด แต่บ้านเรายังติดปัญหาทั้งเรื่องราคาและการตรวจสอบประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ ดังนั้น การวิจัยเพื่อใช้เป็นพื้นฐานพัฒนาการนำไปใช้ในทางปฏิบัติจึงนับว่าเป็นสิ่งสำคัญ"

ในส่วนของแนวทางการวิจัย ศ.ดร.สายสมรบอกว่า เริ่มแรกทีมงานได้ออกสำรวจเพื่อเก็บความหลากหลายของเชื้อราฯ ซึ่งพบว่ามีมากในสบู่ดำ และพื้นที่ที่มีการปลูกกาแฟอราบิก้าแถบจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย พร้อมทั้งเก็บหัวเชื้อดังกล่าวเพื่อมาเพิ่มปริมาณสปอร์ ด้วยการใช้ดินเป็นหัวเชื้อ ในกระถางข้าวโพด ข้าวฟ่าง และดาวเรืองเป็นพืชอาศัย ร่วมกับถั่วพุ่ม ข้าวโพด ลูกเดือย ข้าวไร่ ข้าวฟ่าง และต้นปะดะ ในเวลาที่ทีมงานกำหนดไว้

ทั้งนี้ การผลิตหัวเชื้อด้วยวิธีที่ทีมวิจัยคิดค้นในเวลาที่เหมาะสมพบว่า ที่รากมีการผลิตเชื้อสูงในกลุ่มพืชทดลองทุกชนิด ยกเว้นข้าวไร่ และเพื่อเป็นการเพิ่มความหลากหลาย ทีมวิจัยยังได้ทำการสำรวจความหลากหลายของเชื้อดังกล่าวที่มีต่อพืชท้องถิ่นในป่าเขตร้อนของอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ ดอยปุย พบว่าสามารถอาศัยร่วมกับพืชได้หลายชนิด

การวิจัยดังกล่าวนอกจากเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กลุ่มผู้ผลิตเกษตรอินทรีย์ ยังช่วยลดการนำเข้าเชื้อรามายคอร์ไรซาจากต่างประเทศ และคาดว่าในอนาคตไทยเราจะสามารถผลิตเชื้อดังกล่าวส่งออกให้กับกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านที่เปลี่ยนแนวทางมาทำเกษตรอินทรีย์ได้อีกด้วย

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โทร. 0-5394-1947 ต่อ 144, 0-5394-3346-8 ในวันและเวลาราชการ.

ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ วันที่ 27 กันยายน 2553
http://www.thairath.co.th/content/edu/114194

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • นำเลี้ยงปูนิ่ม-พัฒนาท่องเที่ยว วิถีสร้างอาชีพของ วชช.เพื่อชุมชน
  • 'ไม้ผลแปลกและหายาก' ที่น่าปลูกในปี พ.ศ.2554
  • คาดลำไยปีหน้าราคาพุ่ง "ธีระ" ฟุ้งแผนบริหารจัดการดี มุ่งเน้นเดินตามกลไกตลาด
  • ผลิตปุ๋ยอินทรีย์ใช้เอง ลดต้นทุนการผลิตได้
  • วช.หนุนวิจัยปลานิล "จิตรลดา3" คุณภาพเหมาะเลี้ยงเชิงพาณิชย์
  • บริหารนำเข้ากาแฟสำเร็จรูป สกัดผลกระทบเปิดเสรีอาฟตา กษ.จับตาล้นตลาด-ราคาร่วง
  • วิจัย "ดีเอ็นเอ" แตงกวา มก.พัฒนา ต้านราน้ำค้าง
  • ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    Postharvest Technology Innovation Center

    เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology