͢¢ԷҡѧPostharvest Technology Information NetworkPostharvest TechnologyɵҪԡ͢纺촡ɵҹŧҹԨ

แนะนำหน่วยงาน

  • หน้าหลัก
  • ประชาสัมพันธ์ศูนย์ฯ
  • ความเป็นมา
  • วัตถุประสงค์
  • โครงสร้างการบริหาร
  • คณะกรรมการอำนวยการ
  • คณะกรรมการบริหาร
  • ภาคีสถาบันอุดมศึกษาและวิจัย
  • ติดต่อศูนย์ ฯ

บริการต่าง ๆ

  • PHTNET E-Learning
  • Postharvest Newsletter
  • เครื่องมือวิทยาศาสตร์
  • ห้องปฏิบัติการ
  • รายชื่อผู้ประกอบการ
  • ฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ
  • หลักสูตรวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว
  • รูปภาพความเสียหายหลังการเก็บเกี่ยว
  • มาตรฐานสินค้าเกษตร และระเบียบการส่งออก
  • ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  • สถาบันวิจัยเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  • กรมส่งเสริมการเกตร
  • กรมวิชาการเกษตร
  • สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
  • อุตุนิยมวิทยาเพื่อการเกษตร
  • สมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ
  • ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
  • สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.)

หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน

หมอดินแนะใช้สาร "ซุปเปอร์พด.7" ผสมสมุนไพรกำจัดเพลี้ยแป้งถาวร

เมื่อวันที่ 22 กันยายน 53

หมอดินแนะใช้สาร "ซุปเปอร์พด.7" ผสมสมุนไพรกำจัดเพลี้ยแป้งถาวร

นายฉลอง เทพวิทักษ์กิจ รองอธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน เปิดเผยว่า ปัญหาเพลี้ยแป้งระบาดในไร่มันสำปะหลังยังคงส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังจำนวนมาก ซึ่งกรมพัฒนาที่ดินจึงนำผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีชีวภาพ สารเร่งซุปเปอร์ พด.7 ซึ่งมีประสิทธิภาพในการสกัดสารออกฤทธิ์จากพืชสมุนไพรมาทำการทดสอบ เพื่อใช้เป็นสารควบคุมหรือป้องกันแมลงศัตรูพืช

จากผลการทดสอบการใช้สารเร่งซุปเปอร์ พด. 7 หมักกับพืชสมุนไพร 3 ชนิด ได้แก่ ยาสูบ หางไหล และดีปลี ในกากน้ำตาล พบว่าน้ำหมักจากยาสูบพบเปอร์เซ็นต์การตายของเพลี้ยแป้งสูงที่สุดคือ 100% รองลงมาคือ หางไหล 76% และดีปลี 73% และเมื่อนำพืชสมุนไพรทั้งหมดมาหมักรวมกันมีผลในการกำจัดเพลี้ยแป้งได้ 100% โดยใช้ระยะเวลาในการหมัก 14-21 วัน สำหรับอัตราการใช้ที่เหมาะสมในการควบคุมและป้องกันเพลี้ยแป้งคือ อัตราเจือจางน้ำหมักสมุนไพร 1 ส่วนต่อน้ำ 10 ส่วน สามารถทำให้เพลี้ยแป้งตาย 100% ทั้งนี้ ควรฉีดพ่นช่วงตัวอ่อนที่ยังไม่เกิดแป้งจะกำจัดได้มากขึ้น โดยฉีดพ่นทุก 3-5 วัน การฉีดพ่นน้ำหมักสมุนไพรตามอัตราที่กรมฯ แนะนำจะไม่มีผลทำให้พืชเกิดอาการใบไหม้

อย่างไรก็ตาม กรมพัฒนาที่ดินได้ส่งเสริมให้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังในอำเภอห้วยบง จังหวัดนครราชสีมา ที่อยู่ในโครงการเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลังที่กรมฯ ร่วมมือกับมูลนิธิพัฒนามันสำปะหลังแห่งประเทศไทย ใช้ผลิตภัณฑ์สารเร่งซุปเปอร์ พด. 7 หมักกับพืชสมุนไพรดังกล่าวในการฉีดพ่นแปลงมันสำปะหลังในโครงการ ปรากฏว่าแปลงมันของเกษตรกรไม่ถูกเพลี้ยแป้งทำลาย นอกจากนี้ ยังส่งเสริมให้เกษตรกรใช้น้ำหมักชีวภาพซุปเปอร์ พด.2 ช่วยให้ลำต้นแข็งแรงและช่วยให้รากขยายตัวสามารถไปหาน้ำและธาตุอาหารได้ไกลขึ้น พร้อมกันนี้ควรใส่ปุ๋ยชีวภาพ พด.12 ที่โคนต้น ช่วยให้พืชสามารถนำธาตุอาหารที่ถูกตรึงอยู่ในดินมาใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น ควบคู่กับส่งเสริมให้ปลูกถั่วพร้าระหว่างแถวเพื่อสับกลบเป็นปุ๋ยพืชสดเพื่อการปรับปรุงบำรุงดิน

ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 22 กันยายน 2553
http://www.naewna.com/news.asp?ID=228973

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • นำเลี้ยงปูนิ่ม-พัฒนาท่องเที่ยว วิถีสร้างอาชีพของ วชช.เพื่อชุมชน
  • 'ไม้ผลแปลกและหายาก' ที่น่าปลูกในปี พ.ศ.2554
  • คาดลำไยปีหน้าราคาพุ่ง "ธีระ" ฟุ้งแผนบริหารจัดการดี มุ่งเน้นเดินตามกลไกตลาด
  • ผลิตปุ๋ยอินทรีย์ใช้เอง ลดต้นทุนการผลิตได้
  • วช.หนุนวิจัยปลานิล "จิตรลดา3" คุณภาพเหมาะเลี้ยงเชิงพาณิชย์
  • บริหารนำเข้ากาแฟสำเร็จรูป สกัดผลกระทบเปิดเสรีอาฟตา กษ.จับตาล้นตลาด-ราคาร่วง
  • วิจัย "ดีเอ็นเอ" แตงกวา มก.พัฒนา ต้านราน้ำค้าง
  • ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    Postharvest Technology Innovation Center

    เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology