͢¢ԷҡѧPostharvest Technology Information NetworkPostharvest TechnologyɵҪԡ͢纺촡ɵҹŧҹԨ

แนะนำหน่วยงาน

  • หน้าหลัก
  • ประชาสัมพันธ์ศูนย์ฯ
  • ความเป็นมา
  • วัตถุประสงค์
  • โครงสร้างการบริหาร
  • คณะกรรมการอำนวยการ
  • คณะกรรมการบริหาร
  • ภาคีสถาบันอุดมศึกษาและวิจัย
  • ติดต่อศูนย์ ฯ

บริการต่าง ๆ

  • PHTNET E-Learning
  • Postharvest Newsletter
  • เครื่องมือวิทยาศาสตร์
  • ห้องปฏิบัติการ
  • รายชื่อผู้ประกอบการ
  • ฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ
  • หลักสูตรวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว
  • รูปภาพความเสียหายหลังการเก็บเกี่ยว
  • มาตรฐานสินค้าเกษตร และระเบียบการส่งออก
  • ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  • สถาบันวิจัยเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  • กรมส่งเสริมการเกตร
  • กรมวิชาการเกษตร
  • สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
  • อุตุนิยมวิทยาเพื่อการเกษตร
  • สมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ
  • ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
  • สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.)

หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน

'มทร.ธัญบุรี' วิจัยก๊าซชีวภาพจากขี้หมูขับเคลื่อนรถยนต์แทนน้ำมันเชื้อเพลิง

เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 53

'มทร.ธัญบุรี' วิจัยก๊าซชีวภาพจากขี้หมูขับเคลื่อนรถยนต์แทนน้ำมันเชื้อเพลิง ด้วยราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้กับรถยนต์มีราคาถีบตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นผลมาจากน้ำมันใต้พื้นโลกมีปริมาณลดน้อยลงทุกวัน และคาดการณ์กันว่าใกล้จะหมดจากโลกในอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้า ทำให้มีการคิดค้นหาพลังงานใหม่ ๆ ที่จะนำมาใช้กับรถยนต์อย่างมากมายในช่วงที่ผ่านมา

สำหรับประเทศไทยนอกจากมีการรณรงค์ให้ประหยัดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้กับรถยนต์แล้ว ก็มีการวิจัยเพื่อหาเชื้อเพลิงที่ประหยัดพลังงานมาใช้กับรถยนต์เช่นกัน อาทิ เอทานอล ไบโอดีเซล ไฮโดรเจน และพลังงานไฟฟ้า ฯลฯ

อย่างไรก็ตามนอกจากเชื้อเพลิงดังที่กล่าวมาแล้วยังมีพลังงานที่น่าสนใจซึ่งสามารถนำมาใช้กับรถยนต์ได้ด้วย ซึ่งที่ผ่านมาเราอาจจะเคยได้ยินการนำเอาก๊าซชีวภาพจากมูลสุกรมาผลิตกระแส ไฟฟ้า หรือเป็นก๊าซหุงต้มภายในครัวเรือน ซึ่งเป็นเรื่องที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง

แต่มูลสุกรไม่ได้มีประโยชน์เพียงแค่นี้ หากได้ทำการศึกษาอย่างละเอียด จะพบว่าก๊าซชีวภาพที่ได้จากมูลสุกรยังสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในรูปแบบอื่นได้อีกมากมาย อย่างที่คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ได้ทำการวิจัยนำก๊าซชีวภาพจากมูลสุกรมาใช้กับรถยนต์

นายชัยรัตน์ หงส์ทอง และ นายเกรียงไกร แซมสีม่วง ซึ่งเป็นเจ้าของผลงาน ร่วมกันบอกถึงจุดเริ่มต้นที่สนใจศึกษาการนำก๊าซชีวภาพจากมูลสุกรมาใช้กับเครื่องยนต์ว่า ปัจจุบันประชาชนรู้จักการนำเอาก๊าซชีว ภาพจากมูลสุกรไปใช้อย่างแพร่หลายก็จริง แต่ในบางครั้งการเลี้ยงสุกร ที่มีการผลิตก๊าซชีวภาพได้เป็นปริมาณมาก แต่กลับใช้ก๊าซชีวภาพน้อย ซึ่งเมื่อบ่อที่เก็บก๊าซชีวภาพ มีปริมาณเต็ม ก็จะต้องมีการระบายก๊าซชีวภาพที่เหลือเหล่านั้นปล่อยทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์ อีกทั้งในกระบวนการหมักจะเกิดก๊าซมีเทน, ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์ และไนโตรเจน ซึ่งก๊าซเหล่านี้เมื่อถูกปล่อยออกไปจะมีผลต่อชั้นบรรยากาศ ส่งผลต่อภาวะโลกร้อนที่ทุกคนต้องเผชิญอยู่ในปัจจุบัน

ด้วยเหตุนี้ จึงเกิดแนวคิดที่จะนำก๊าซชีวภาพที่ได้จากมูลสุกรมาบรรจุลงถังและนำมาใช้กับเครื่องยนต์ขนาด 1,600 ซีซี ในรถยนต์ ติดตั้งถังก๊าซแอลพีจี ขนาด 58 ลิตร เพื่อหาประสิทธิภาพการ ใช้งานของก๊าซชีวภาพที่ใช้กับรถยนต์ต่อไป ซึ่งจะได้เป็นแนวทางที่จะพัฒนาพลังงานก๊าซชีวภาพที่ได้จากมูลสุกรให้เป็นพลังงานที่จะสามารถนำมาเป็นพลังงานทดแทนได้ในอนาคต

ทั้งนี้จากการศึกษาโดยการบรรจุก๊าซชีวภาพลงถังด้วยชุดบรรจุก๊าซชีวภาพแบบใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 1 แรงม้า เป็นต้นกำลังบรรจุก๊าซชีวภาพแรงดัน 200 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว ใช้เวลาเฉลี่ยในการบรรจุก๊าซชีวภาพ 11.41 นาที หลังจากนั้นนำรถยนต์ไปทำการขับบนถนนเพื่อทดสอบหาประสิทธิภาพ พบว่าการขับเคลื่อนตั้งแต่เริ่มสตาร์ตเครื่องยนต์ไปจนถึงความเร็ว 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แล้วทำการควบคุมความเร็วไว้ ขับเคลื่อนจนพลังงานก๊าซชีวภาพหมดไปจากถังรถยนต์สามารถวิ่งได้เป็นระยะทางเฉลี่ย 14.30 กิโลเมตร

นายชัยรัตน์ และ นายเกรียงไกร  บอกต่อว่า ผลงานนี้เป็นงานวิจัยสำหรับผู้ที่สนใจหรือไม่มีความรู้ในเรื่องนี้ ไม่ควรนำก๊าซชีวภาพมาบรรจุลงถังก๊าซหุงต้มด้วยตนเอง ควรจะต้องศึกษาหาข้อมูลหรือทฤษฎีที่เกี่ยวข้องและควรคำนึงถึงระบบความปลอดภัยที่จะนำไปใช้ในขณะทำการวิจัยรวมถึงการนำไปใช้งาน เนื่องจากบ่อที่ใช้ในการผลิตก๊าซชีวภาพมีหลายแบบ ซึ่งในแต่ละแบบสามารถผลิตก๊าซได้ปริมาณและแรงดันมากน้อยไม่เท่ากัน หากไม่มีความรู้และความชำนาญจะทำให้เกิดอันตรายได้

หากมีข้อสงสัยหรือสนใจ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี หรือหมายเลขโทรศัพท์ 08-6511-5857 เจ้าของผลงานพร้อมที่จะเผยแพร่รายละเอียดที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจในงานวิจัยเรื่องนี้.

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 17 สิงหาคม 2553
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=582&contentID=85516

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • นำเลี้ยงปูนิ่ม-พัฒนาท่องเที่ยว วิถีสร้างอาชีพของ วชช.เพื่อชุมชน
  • 'ไม้ผลแปลกและหายาก' ที่น่าปลูกในปี พ.ศ.2554
  • คาดลำไยปีหน้าราคาพุ่ง "ธีระ" ฟุ้งแผนบริหารจัดการดี มุ่งเน้นเดินตามกลไกตลาด
  • ผลิตปุ๋ยอินทรีย์ใช้เอง ลดต้นทุนการผลิตได้
  • วช.หนุนวิจัยปลานิล "จิตรลดา3" คุณภาพเหมาะเลี้ยงเชิงพาณิชย์
  • บริหารนำเข้ากาแฟสำเร็จรูป สกัดผลกระทบเปิดเสรีอาฟตา กษ.จับตาล้นตลาด-ราคาร่วง
  • วิจัย "ดีเอ็นเอ" แตงกวา มก.พัฒนา ต้านราน้ำค้าง
  • ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    Postharvest Technology Innovation Center

    เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology