͢¢ԷҡѧPostharvest Technology Information NetworkPostharvest TechnologyɵҪԡ͢纺촡ɵҹŧҹԨ

แนะนำหน่วยงาน

  • หน้าหลัก
  • ประชาสัมพันธ์ศูนย์ฯ
  • ความเป็นมา
  • วัตถุประสงค์
  • โครงสร้างการบริหาร
  • คณะกรรมการอำนวยการ
  • คณะกรรมการบริหาร
  • ภาคีสถาบันอุดมศึกษาและวิจัย
  • ติดต่อศูนย์ ฯ

บริการต่าง ๆ

  • PHTNET E-Learning
  • Postharvest Newsletter
  • เครื่องมือวิทยาศาสตร์
  • ห้องปฏิบัติการ
  • รายชื่อผู้ประกอบการ
  • ฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ
  • หลักสูตรวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว
  • รูปภาพความเสียหายหลังการเก็บเกี่ยว
  • มาตรฐานสินค้าเกษตร และระเบียบการส่งออก
  • ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  • สถาบันวิจัยเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  • กรมส่งเสริมการเกตร
  • กรมวิชาการเกษตร
  • สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
  • อุตุนิยมวิทยาเพื่อการเกษตร
  • สมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ
  • ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
  • สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.)

หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน

เร่งปล่อยแตนเบียนสกัดเพลี้ย เกษตรฯผวาระบาดลามไม่หยุดกระทบอุตฯ มันสำปะหลัง

เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 53

เร่งปล่อยแตนเบียนสกัดเพลี้ย เกษตรฯผวาระบาดลามไม่หยุดกระทบอุตฯ มันสำปะหลัง

นายศุภชัย โพธิ์สุ รมช.เกษตรและสหกรณ์ เผยว่า ปัจจุบันยังมีการแพร่ระบาดของเพลี้ยแป้งมันสำปะหลังในพื้นที่ 36 จังหวัด ครอบคลุมเนื้อที่ 406,962 ไร่ สำหรับพื้นที่ที่มีการระบาดมากที่สุด คือ จ.นครราชสีมา รองลงมา ได้แก่ จ.กาญจนบุรี พิษณุโลก กาฬสินธุ์ และยโสธร ซึ่งต้องติดตามเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด พร้อมเร่งควบคุมการระบาดให้อยู่ในวงจำกัด และต้องลดพื้นที่ระบาดลงโดยเร็ว ขณะเดียวกันยังต้องเร่งฟื้นฟูแหล่งปลูกมันสำปะหลังที่ได้รับความเสียหายด้วย

นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมากรมวิชาการเกษตรได้นำเข้าพ่อ-แม่พันธุ์แตนเบียน Anagyrus lopezi จากสาธารณรัฐเบนิน จำนวน 500 ตัว เพื่อเพาะขยายพันธุ์เพิ่มจำนวนที่ห้องปฏิบัติการของสำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช พร้อมศึกษาทดสอบความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการกักกัน แล้วนำแตนเบียนที่เพาะได้ไปทดลองปล่อยในแปลงปลูกมันสำปะหลังภายในศูนย์วิจัย พืชไร่ จ.ระยอง และพื้นที่ของสถาบันพัฒนามันสำปะหลังแห่งประเทศไทย (ห้วยบง) จ.นครราชสีมา ซึ่งมีการระบาดของเพลี้ยแป้ง เพื่อศึกษาความสามารถในการอยู่รอดของแตนเบียนและศึกษาผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม เบื้องต้นพบว่า แตนเบียน A. lopezi ไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อสภาพแวดล้อม เนื่องจากแตนเบียนจะทำลายเฉพาะเพลี้ยแป้งมันสำปะหลังสีชมพู ซึ่งเป็นชนิดที่ระบาดทำลายมันสำปะหลังอยู่ในขณะนี้ นับว่ามีความปลอดภัยสูงมาก

ปัจจุบันกรมวิชาการเกษตรได้เร่งจัดฝึกอบรมการเพาะเลี้ยงและปล่อยแตนเบียน A. lopezi ให้แก่นักวิชาการของกรม นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร ผู้นำเกษตรกร และผู้แทนโรงงานแป้งมันและอุตสาหกรรมแป้ง เพื่อช่วยกันผลิตแตนเบียนและทยอยปล่อยในพื้นที่ปลูกเพื่อควบคุมเพลี้ยแป้ง มันสำปะหลัง คาดว่าจะสามารถผลิตได้เดือนละ 5,000 - 50,000 คู่ รวมกับความสามารถของแตนเบียนในการเพิ่มปริมาณได้ในธรรมชาติอย่างน้อย 10 เท่าในทุก ๆ เดือน คาดว่าภายในเดือนธันวาคม 2553 นี้ จะสามารถผลิตและปล่อยแตนเบียนครอบคลุมพื้นที่ได้ไม่น้อยกว่า 1.18 ล้านไร่

ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 21 กรกฎาคม 2553
http://www.naewna.com/news.asp?ID=220104

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • นำเลี้ยงปูนิ่ม-พัฒนาท่องเที่ยว วิถีสร้างอาชีพของ วชช.เพื่อชุมชน
  • 'ไม้ผลแปลกและหายาก' ที่น่าปลูกในปี พ.ศ.2554
  • คาดลำไยปีหน้าราคาพุ่ง "ธีระ" ฟุ้งแผนบริหารจัดการดี มุ่งเน้นเดินตามกลไกตลาด
  • ผลิตปุ๋ยอินทรีย์ใช้เอง ลดต้นทุนการผลิตได้
  • วช.หนุนวิจัยปลานิล "จิตรลดา3" คุณภาพเหมาะเลี้ยงเชิงพาณิชย์
  • บริหารนำเข้ากาแฟสำเร็จรูป สกัดผลกระทบเปิดเสรีอาฟตา กษ.จับตาล้นตลาด-ราคาร่วง
  • วิจัย "ดีเอ็นเอ" แตงกวา มก.พัฒนา ต้านราน้ำค้าง
  • ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    Postharvest Technology Innovation Center

    เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology