͢¢ԷҡѧPostharvest Technology Information NetworkPostharvest TechnologyɵҪԡ͢纺촡ɵҹŧҹԨ

แนะนำหน่วยงาน

  • หน้าหลัก
  • ประชาสัมพันธ์ศูนย์ฯ
  • ความเป็นมา
  • วัตถุประสงค์
  • โครงสร้างการบริหาร
  • คณะกรรมการอำนวยการ
  • คณะกรรมการบริหาร
  • ภาคีสถาบันอุดมศึกษาและวิจัย
  • ติดต่อศูนย์ ฯ

บริการต่าง ๆ

  • PHTNET E-Learning
  • Postharvest Newsletter
  • เครื่องมือวิทยาศาสตร์
  • ห้องปฏิบัติการ
  • รายชื่อผู้ประกอบการ
  • ฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ
  • หลักสูตรวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว
  • รูปภาพความเสียหายหลังการเก็บเกี่ยว
  • มาตรฐานสินค้าเกษตร และระเบียบการส่งออก
  • ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  • สถาบันวิจัยเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  • กรมส่งเสริมการเกตร
  • กรมวิชาการเกษตร
  • สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
  • อุตุนิยมวิทยาเพื่อการเกษตร
  • สมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ
  • ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
  • สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.)

หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน

รีไซเคิลลำไยค้างสต๊อก 60 โกดัง ก.วิทย์บดทำลายครบตามสัญญา อัดแท่งชีวมวลขายส่งเงินคืนรัฐ

เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 53

รีไซเคิลลำไยค้างสต๊อก 60 โกดัง ก.วิทย์บดทำลายครบตามสัญญา อัดแท่งชีวมวลขายส่งเงินคืนรัฐ

นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ พร้อม นายวีระชัย วีระเมธีกุล รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร่วมแถลงข่าวความก้าวหน้าโครงการรีไซเคิลลำไยค้างสต็อค ตามข้อตกลงในการทำลายลำไยค้างสต๊อกซึ่งกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ต้องบดลำไยให้หมดทั้ง 60 โกดัง ภายในเวลา 150 วัน นับจากวันที่ได้รับการโอนงบประมาณเมื่อกลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เพื่อนำลำไยที่บดแล้วไปอัดเป็นแท่งเชื้อเพลงชีวมวลจำหน่าย เพื่อนำรายได้คืนรัฐตามสัญญา โดยขณะนี้กระทรวงวิทย์ สามารถบดลำไยแล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โดยบดลำไยได้ทั้งสิ้น 46,309.04 ตัน คิดเป็น 99% จากลำไยทั้งหมด 46,828.17 ตัน ส่วนที่เหลือ 1 % หรือประมาณ 519.13 ตัน เป็นลำไยที่ไม่สามารถส่งมอบได้ เนื่องจากมีการสูญเสียจากระบบการจัดเก็บที่ไม่ได้มาตรฐาน ทำให้เกิดเชื้อรา กล่องเน่าเปื่อยฉีดขาดประมาณ 248 ตัน อีกประมาณ 270 ตัน เป็นลำไยที่พบปัญหาเรื่องปริมาณและคุณภาพ ซึ่งต้องอายัดไว้เป็นของกลางเพื่อตรวจสอบต่อไป

นายธีระกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับผลผลิตลำไยจาก 8 จังหวัดภาคเหนือ ในปีนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คาดว่า จะออกสู่ตลาดรวมประมาณ 396,959 ตัน แยกเป็น จ.เชียงใหม่ 162,828 ตัน เชียงราย 51,264 ตัน พะเยา 17,346 ตัน น่าน 14,025 ตัน ลำปาง 1,754 ตัน ลำพูน 140,816 ตัน ตาก 5,697 ตัน และจังหวัดแพร่ 3,229 ตัน ซึ่งลดลงจากปี 2552 คิดเป็น 19.19 %

อย่างไรก็ตาม แม้ผลผลิตในภาพรวมจะลดลง แต่กลับพบว่าผลผลิตจะกระจุกตัวสูงมากในช่วงเดือนกรกฎาคม ประมาณ 163,293 ตัน และเดือนสิงหาคม 199,612 ตัน ซึ่งอาจเกิดปัญหาลำไยล้นตลาดและราคาตกต่ำได้ กระทรวงเกษตรฯ จึงเร่งเตรียมแผนบริหารจัดการลำไย ปี 2553 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกร ซึ่งคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้มีมติเห็นชอบในหลักการโครงการดัง กล่าวเรียบร้อยแล้ว และได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมการเกษตร เสนอขออนุมัติงบประมาณจากคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) จำนวน 557.59 ล้านบาท เป็นเงินจ่ายขาด 157.59 ล้านบาท และเงินทุนหมุนเวียน 400 ล้านบาท เพื่อใช้ดำเนินโครงการบริหารจัดการลำไย ปี 2553 ในช่วงระหว่างเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม เป้าหมาย 158,000 ตัน

ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 20 กรกฎาคม 2553
http://www.naewna.com/news.asp?ID=219949

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • นำเลี้ยงปูนิ่ม-พัฒนาท่องเที่ยว วิถีสร้างอาชีพของ วชช.เพื่อชุมชน
  • 'ไม้ผลแปลกและหายาก' ที่น่าปลูกในปี พ.ศ.2554
  • คาดลำไยปีหน้าราคาพุ่ง "ธีระ" ฟุ้งแผนบริหารจัดการดี มุ่งเน้นเดินตามกลไกตลาด
  • ผลิตปุ๋ยอินทรีย์ใช้เอง ลดต้นทุนการผลิตได้
  • วช.หนุนวิจัยปลานิล "จิตรลดา3" คุณภาพเหมาะเลี้ยงเชิงพาณิชย์
  • บริหารนำเข้ากาแฟสำเร็จรูป สกัดผลกระทบเปิดเสรีอาฟตา กษ.จับตาล้นตลาด-ราคาร่วง
  • วิจัย "ดีเอ็นเอ" แตงกวา มก.พัฒนา ต้านราน้ำค้าง
  • ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    Postharvest Technology Innovation Center

    เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology