͢¢ԷҡѧPostharvest Technology Information NetworkPostharvest TechnologyɵҪԡ͢纺촡ɵҹŧҹԨ

แนะนำหน่วยงาน

  • หน้าหลัก
  • ประชาสัมพันธ์ศูนย์ฯ
  • ความเป็นมา
  • วัตถุประสงค์
  • โครงสร้างการบริหาร
  • คณะกรรมการอำนวยการ
  • คณะกรรมการบริหาร
  • ภาคีสถาบันอุดมศึกษาและวิจัย
  • ติดต่อศูนย์ ฯ

บริการต่าง ๆ

  • PHTNET E-Learning
  • Postharvest Newsletter
  • เครื่องมือวิทยาศาสตร์
  • ห้องปฏิบัติการ
  • รายชื่อผู้ประกอบการ
  • ฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ
  • หลักสูตรวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว
  • รูปภาพความเสียหายหลังการเก็บเกี่ยว
  • มาตรฐานสินค้าเกษตร และระเบียบการส่งออก
  • ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  • สถาบันวิจัยเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  • กรมส่งเสริมการเกตร
  • กรมวิชาการเกษตร
  • สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
  • อุตุนิยมวิทยาเพื่อการเกษตร
  • สมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ
  • ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
  • สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.)

หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน

"ไหม" ตลาดโลกขาดแคลนหนัก หนุนเกษตรกรเลี้ยงเพิ่มชิงโอกาส

เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 53

"ไหม" ตลาดโลกขาดแคลนหนัก หนุนเกษตรกรเลี้ยงเพิ่มชิงโอกาส

นายไพโรจน์ ลิ้มจำรูญ อธิบดีกรมหม่อนไหม เปิดเผยว่า ขณะนี้ราคาเส้นไหมในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเส้นไหมขาดตลาดไม่เฉพาะในประเทศไทยแต่ทุกตลาดทั่วโลก โดยขณะนี้ราคาเส้นไหมอยู่ที่กิโลกรัมละ 1,800-2,000 บาท กรมหม่อนไหมได้ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว เพราะปัจจุบันไทยต้องนำเข้าเส้นไหมจากต่างประเทศ เนื่องจากการผลิตในประเทศมีไม่เพียงพอกับความต้องการใช้

โดยแนวทางการแก้ปัญหาดังกล่าว กรมมีนโยบายปรับโครงสร้างการเลี้ยงไหมของเกษตรกรจากเดิมที่มีการเลี้ยงปีละ 7 รุ่น เป็นปีละ 15 รุ่น และได้ประสานกับผู้รับซื้อรังไหมและเส้นไหมให้รับซื้อในราคาที่สูงขึ้น ซึ่งจะทำให้เกษตรกรมีรายได้ดีขึ้นเดือนละไม่น้อยกว่า 8,000-15,000 บาท

"การเลี้ยงไหม 15 รุ่น กรมหม่อนไหมจะผลิตไข่ไหม และเลี้ยงตัวไหมในวัยอ่อนอายุ 10 -15 วัน และให้เกษตรกรนำไปเลี้ยงต่อเป็นไหมวัยแก่ เพื่อลดเวลาเลี้ยงและอัตราการตายของตัวไหม ทำให้ได้เส้นไหมมากขึ้น การเลี้ยงเดือนละ 2 รุ่นเกษตรกรสามารถทำได้ แต่เกษตรกรต้องเตรียมความพร้อมของใบหม่อนมากขึ้น ปกติเกษตรกรจะเลี้ยงไหมเป็นอาชีพเสริมจากการปลูกข้าว และพืชไร่ชนิดอื่น ทำให้เกษตรกรมีรายได้จากการปลูกข้าวและรายได้เสริมจากการเลี้ยงไหมเพิ่มขึ้น ด้วย เบื้องต้นกรมหม่อนไหมจะนำร่องการเลี้ยงไหม 15 รุ่น โดยมอบหมายให้ศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ จำนวน 5 ศูนย์ ได้แก่ ศูนย์หม่อนไหมฯ จ.นครราชสีมา จ.อุบลราชธานี จ.หนองคาย จ.กาญจนบุรีและ จ.แพร่ โดยจะนำเกษตรกรเข้ามาฝึกอบรมภายในศูนย์ฯ เพื่อเป็นเกษตรกรต้นแบบนำความรู้ความเข้าใจและทักษะการเลี้ยงที่ถูกต้องไปถ่ายทอดให้กับเกษตรกรรายอื่นๆ ต่อไป

ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 6 กรกฎาคม 2553
http://www.naewna.com/news.asp?ID=218058

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • นำเลี้ยงปูนิ่ม-พัฒนาท่องเที่ยว วิถีสร้างอาชีพของ วชช.เพื่อชุมชน
  • 'ไม้ผลแปลกและหายาก' ที่น่าปลูกในปี พ.ศ.2554
  • คาดลำไยปีหน้าราคาพุ่ง "ธีระ" ฟุ้งแผนบริหารจัดการดี มุ่งเน้นเดินตามกลไกตลาด
  • ผลิตปุ๋ยอินทรีย์ใช้เอง ลดต้นทุนการผลิตได้
  • วช.หนุนวิจัยปลานิล "จิตรลดา3" คุณภาพเหมาะเลี้ยงเชิงพาณิชย์
  • บริหารนำเข้ากาแฟสำเร็จรูป สกัดผลกระทบเปิดเสรีอาฟตา กษ.จับตาล้นตลาด-ราคาร่วง
  • วิจัย "ดีเอ็นเอ" แตงกวา มก.พัฒนา ต้านราน้ำค้าง
  • ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    Postharvest Technology Innovation Center

    เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology