͢¢ԷҡѧPostharvest Technology Information NetworkPostharvest TechnologyɵҪԡ͢纺촡ɵҹŧҹԨ

แนะนำหน่วยงาน

  • หน้าหลัก
  • ประชาสัมพันธ์ศูนย์ฯ
  • ความเป็นมา
  • วัตถุประสงค์
  • โครงสร้างการบริหาร
  • คณะกรรมการอำนวยการ
  • คณะกรรมการบริหาร
  • ภาคีสถาบันอุดมศึกษาและวิจัย
  • ติดต่อศูนย์ ฯ

บริการต่าง ๆ

  • PHTNET E-Learning
  • Postharvest Newsletter
  • เครื่องมือวิทยาศาสตร์
  • ห้องปฏิบัติการ
  • รายชื่อผู้ประกอบการ
  • ฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ
  • หลักสูตรวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว
  • รูปภาพความเสียหายหลังการเก็บเกี่ยว
  • มาตรฐานสินค้าเกษตร และระเบียบการส่งออก
  • ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  • สถาบันวิจัยเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  • กรมส่งเสริมการเกตร
  • กรมวิชาการเกษตร
  • สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
  • อุตุนิยมวิทยาเพื่อการเกษตร
  • สมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ
  • ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
  • สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.)

หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน

ส่งออกกุ้งไตรมาสแรกพุ่ง 2 หมื่นล. สศก.แนะคุมปริมาณผลิตรักษาราคา

เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 53

ส่งออกกุ้งไตรมาสแรกพุ่ง 2 หมื่นล. สศก.แนะคุมปริมาณผลิตรักษาราคา

นายอภิชาต จงสกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.)เปิดเผยว่า ปัจจุบัน ประเทศไทยครองแชมป์ส่งออกกุ้งเป็นอันดับ 1 ของโลก โดยสถานการณ์การส่งออกสินค้ากุ้งและผลิตภัณฑ์ (ไม่รวมกุ้งก้ามกราม) สิ้นสุดไตรมาสที่ 1 (ม.ค. - มี.ค.) ปี 2553 พบว่า เพิ่มขึ้นทั้งปริมาณและมูลค่า โดยมีปริมาณการส่งออกรวม 87,998 ตัน คิดเป็นมูลค่า 20,040 บาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 20.95 และ 26.01 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีที่ผ่านมา ส่วนปริมาณการผลิตกุ้งในประเทศมีผลผลิตรวม 94,169 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.14 โดยเป็นกุ้งขาวร้อยละ 99.76 และกุ้งกุลาดำร้อยละ 0.24 ทั้งนี้ คาดว่าผลผลิตในไตรมาสที่ 2 จะเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 1 ประมาณร้อยละ 25

สำหรับสาเหตุที่ทำให้ยอดส่งออกกุ้งไทยเพิ่มขึ้นนั้น เนื่องจากประเทศที่เป็นคู่แข่งส่งออกกุ้งที่สำคัญของไทย เช่น ประเทศอินโดนีเซีย ผลผลิตมีแนวโน้มลดลง จากปัญหาเรื่องโรคไวรัสกล้ามเนื้อขุ่น (IMN : Infectious Myonecrosis) ระบาด ส่งผลให้ผลผลิตกุ้ง ในปี 2552 ลดลงกว่าร้อยละ 40 ในอดีต นอกจากนี้โรคระบาดดังกล่าวนี้ได้ทำลายอุตสาหกรรมการผลิตกุ้งของประเทศบราซิล ส่งผลให้ผลผลิตกุ้งของบราซิล ลดลงกว่าร้อยละ 70 จนถึงปัจจุบัน ยังไม่สามารถเพิ่มปริมาณการผลิตให้กลับมาที่จุดเดิมได้ นอกจากนี้ ประเทศจีนที่ประสบปัญหาเรื่องสภาพอากาศที่แปรปรวน อากาศหนาวเย็น ส่งผลให้ผลผลิตกุ้งในจีนไม่เพียงพอต่อความต้องการบริโภค จึงต้องนำเข้ากุ้ง ส่วนตลาดส่งออกสำคัญ ถึงแม้ว่าจะประสบปัญหาภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจและความเสียเปรียบประเทศคู่แข่ง จากการเก็บภาษีเอดีของสหรัฐอเมริกา แต่ไทยก็ยังคงรักษาตลาดส่งออกกุ้งในสหรัฐอเมริกาเป็นอันดับ 1 รองลงมาเป็นประเทศญี่ปุ่น และกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป ตามลำดับ

อย่างไรก็ตามแม้ราคากุ้งจะดีดตัวสูงขึ้น แต่เกษตรกรไม่ควรเลี้ยงกุ้งในปริมาณที่มากเกินไป เพื่อป้องกันปัญหาผลผลิตล้นตลาดและราคาตกต่ำที่อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งปัจจุบันโรงเพาะฟักและฟาร์ม เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งได้รับมาตรฐาน GAP จากกรมประมงแล้วมากกว่าร้อยละ 80 โดยมีแหล่งผลิตกุ้งที่สำคัญของไทยได้แก่ จันทบุรี และสุราษฎร์ธานี

ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 25 มิถุนายน 2553
http://www.naewna.com/news.asp?ID=216572

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • นำเลี้ยงปูนิ่ม-พัฒนาท่องเที่ยว วิถีสร้างอาชีพของ วชช.เพื่อชุมชน
  • 'ไม้ผลแปลกและหายาก' ที่น่าปลูกในปี พ.ศ.2554
  • คาดลำไยปีหน้าราคาพุ่ง "ธีระ" ฟุ้งแผนบริหารจัดการดี มุ่งเน้นเดินตามกลไกตลาด
  • ผลิตปุ๋ยอินทรีย์ใช้เอง ลดต้นทุนการผลิตได้
  • วช.หนุนวิจัยปลานิล "จิตรลดา3" คุณภาพเหมาะเลี้ยงเชิงพาณิชย์
  • บริหารนำเข้ากาแฟสำเร็จรูป สกัดผลกระทบเปิดเสรีอาฟตา กษ.จับตาล้นตลาด-ราคาร่วง
  • วิจัย "ดีเอ็นเอ" แตงกวา มก.พัฒนา ต้านราน้ำค้าง
  • ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    Postharvest Technology Innovation Center

    เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology