͢¢ԷҡѧPostharvest Technology Information NetworkPostharvest TechnologyɵҪԡ͢纺촡ɵҹŧҹԨ

แนะนำหน่วยงาน

  • หน้าหลัก
  • ประชาสัมพันธ์ศูนย์ฯ
  • ความเป็นมา
  • วัตถุประสงค์
  • โครงสร้างการบริหาร
  • คณะกรรมการอำนวยการ
  • คณะกรรมการบริหาร
  • ภาคีสถาบันอุดมศึกษาและวิจัย
  • ติดต่อศูนย์ ฯ

บริการต่าง ๆ

  • PHTNET E-Learning
  • Postharvest Newsletter
  • เครื่องมือวิทยาศาสตร์
  • ห้องปฏิบัติการ
  • รายชื่อผู้ประกอบการ
  • ฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ
  • หลักสูตรวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว
  • รูปภาพความเสียหายหลังการเก็บเกี่ยว
  • มาตรฐานสินค้าเกษตร และระเบียบการส่งออก
  • ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  • สถาบันวิจัยเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  • กรมส่งเสริมการเกตร
  • กรมวิชาการเกษตร
  • สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
  • อุตุนิยมวิทยาเพื่อการเกษตร
  • สมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ
  • ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
  • สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.)

หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน

ยุทธศาสตร์ข้าวไทยไร้ทิศทาง นักการเมืองต้นเหตุหายนะตะเพิดพ้นวงจร

เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 53

ยุทธศาสตร์ข้าวไทยไร้ทิศทาง นักการเมืองต้นเหตุหายนะตะเพิดพ้นวงจร

รัฐควรให้งบประมาณอุดหนุนชาวนาอย่างเป็นระบบ แทนการบิดเบือนกลไกการตลาด โดยการทำให้ราคาข้าวสูงกว่าที่ควรจะเป็น เช่น การรับจำนำข้าวในปี 2547 รัฐบาลกำหนดราคารับจำนำสูงกว่าราคาตลาดถึง 4,000 บาท เป็นผลให้รัฐบาลชุดปัจจุบันเปลี่ยนนโยบายจากการรับจำนำไปเป็นการประกันรายได้เกษตรกรแทน

ในการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อกำหนดเป้าหมายการจัดทำยุทธศาสตร์ความมั่นคงของชาวนา และการเพาะปลูกข้าวของประเทศไทย ในหัวข้อ "ยุทธศาสตร์การอุดหนุนข้าวไทย : เพื่อชาวนา หรือ เพื่อใคร" ที่มีนายสมพล เกียรติไพบูลย์ ประธานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ทำหน้าที่เป็นประธาน และจัดให้มีขึ้นโดยผู้เข้าอบรมหลักสูตรผู้บริหารระดับสูงด้านการค้า การพาณิชย์ และอุตสาหกรรม (Tepcot) รุ่นที่ 3 ที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย วานนี้ (21 มิ.ย.) นั้น


ผู้สื่อข่าวซึ่งร่วมสังเกตการณ์ด้วย รายงานว่า นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล รองเลขาธิการหอการค้าไทย ทำหน้าที่ผู้ดำเนินรายการ ได้ขอให้ผู้เข้าร่วมสัมมนา ประกอบด้วย สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย สมาคมโรงสีข้าวไทย สมาคมชาวนาไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาข้อสรุปให้แก่ภาครัฐว่าควรให้การอุดหนุนชาวนารูปแบบใด จึงจะได้ประโยชน์สูงสุด นโยบายประกันรายได้ชาวนากับการรับจำนำข้าวอย่างไหนดีกว่ากัน และถึงมือชาวนามากกว่า ขณะที่การสร้างความสามารถในการแข่งขันและรายได้แก่เกษตรกรในระยะยาว ควรดำเนินการภายใต้แนวคิดการลดจำนวนชาวนาไทย หรือลดพื้นที่เพาะปลูกข้าวลง เพื่อให้ราคาข้าวสูงขึ้น และยืนราคาได้อย่างมีเสถียรภาพ

ทั้งนี้ ได้ข้อสรุปใน 3-4 ประเด็น คือ รัฐควรให้งบประมาณอุดหนุนชาวนาอย่างเป็นระบบ แทนการบิดเบือนกลไกการตลาด โดยการทำให้ราคาข้าวสูงกว่าที่ควรจะเป็น เช่น การรับจำนำข้าวในปี 2547 รัฐบาลกำหนดราคารับจำนำสูงกว่าราคาตลาดถึง 4,000 บาท เป็นผลให้รัฐบาลชุดปัจจุบันเปลี่ยนนโยบายจากการรับจำนำไปเป็นการประกันรายได้เกษตรกรแทน โดยสรุปแม้จะพูดถึงการคิดคำนวนราคาอ้างอิง ที่จะต้องปรับปรุงให้สอดคล้องกับความเป็นจริงมากขึ้น แต่วงสัมมนาตอบรับระบบประกันรายได้ว่า ประโยชน์ตกถึงมือชาวนามากกว่าการรับจำนำ ซึ่งผลการสำรวจของทีดีอาร์ไอ ระบุว่า ชาวนาได้ประโยชน์จากการรับจำนำเพียง 36.8% ส่วนที่เหลืออีกมากกว่า 60% ตกอยู่ในมือคนอื่น ซึ่งหมายถึงนักการเมือง

ดร.นิพนธ์ พัวพงศกร ประธานทีดีอาร์ไอ ระบุว่า ถึงเวลาแล้วที่สังคมไทยจะร่วมกันล้อมกรอบนักการเมืองด้วยการลดอำนาจพวกเขา ไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับนโยบายข้าว "อย่าเอานักการเมืองมายุ่งกับการแทรกแซงราคาข้าว เพราะไม่มีวันจะทำให้ราคาข้าวดีขึ้นได้ สิ่งที่ทำได้ คือ ประกันรายได้ให้แก่เกษตรกรเท่านั้น และจัดระบบการประกันรายได้อย่างถูกวิธี เพื่อไม่ให้งบประมาณรัฐรั่วไหลไปสู่ผู้ที่ไม่ได้เป็นเกษตรกร หรือมีพื้นที่เพาะปลูกจริง" นอกจากนี้ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยมีข้อเสนอปรับช่องโหว่ของการแข่งขันข้าวไทยในตลาดโลกว่า ระยะยาวหากลดพื้นที่ปลูกข้าวลงครึ่งหนึ่งของปัจจุบันราคาข้าวจะสูงขึ้นได้ทันที

ด้านนายสมพล เกียรติไพบูลย์ ประธานตลาดหลักทรัพย์ฯ  และอดีตปลัดกระทรวงพาณิชย์  กล่าวว่า มีการพูดเรื่องข้าวและปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นร้อยๆครั้ง ตลอดอายุราชการ  45  ปี แต่ไม่มีอะไรแตกต่างไปจากข้อถกเถียงเดิมๆ ที่ว่าใครได้ประโยชน์จากนโยบายรัฐมากกว่ากัน ระหว่างชาวนา โรงสี และผู้ส่งออก แม้วันนี้จะมีเรื่องใหม่เข้ามาบีบว่า จะเอาระบบจำนำกลับมาดี  หรือคงการประกันรายได้ต่อไป แต่ท้ายสุดทุกฝ่ายยังย่ำอยู่กับที่และวนอยู่กับปัญหาเดิมๆ  "เวลาเราพิจารณาปัญหา เราควรมองต้นเหตุของปัญหา เริ่มตั้งแต่การผลิตจนถึงการบริโภค หน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กระทั่งถึงวิธีขายข้าวไปต่างประเทศ  เพื่อให้เกิดการบูรณาการตามนโยบายของรัฐบาลจริงๆ"

นายสมพลกล่าวถึง สิ่งแรกที่ต้องทำคือ จะช่วยให้ชาวนาพ้นจากความยากจนอย่างไร ซึ่งการจะพ้นความยากจนได้ ไม่ใช่เอาราคาข้าวเป็นตัวกำหนด หาไม่แล้ว 500 ปีก็ยังแก้ไม่ได้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสเรื่องการเกษตรแบบผสมผสาน นี่เป็นทางหนึ่งที่ทำให้ชาวนามีรายได้เพิ่มขึ้น ไม่ใช่แค่รายได้จากการปลูกข้าวอย่างเดียว  "ประเด็นต่อมาคือการสร้างประสิทธิภาพในการผลิตกี่ปีมาแล้วที่ไทยเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ แต่กลับมีผลผลิตต่อไร่ต่ำที่สุดเพียง  300-400  กก.ต่อไร่ ขณะที่เวียดนาม 700-800 กก.ต่อไร่ และสหรัฐฯ มากกว่า 1,000 กก.ต่อไร่ เรายังมีปัญหาคุณภาพด้วย ถ้าแก้ปัญหาดิน ระบบน้ำและการชลประทาน ปุ๋ย ปัจจัยการผลิต รวมถึงพันธุ์ข้าวได้ เราก็จะพูดเรื่องราคาเป็นลำดับต่อไปได้ไม่ยาก"

นายสมพลพูดถึงปริมาณผลผลิตที่สูงกว่าความต้องการบริโภคภายในประเทศ  ซึ่งเป็นจุดอ่อนที่ทำให้ราคาข้าวและสินค้าเกษตรไทยอ่อนไหวง่าย โดยราคาสินค้าต่ำเมื่อต้นฤดู  แต่จะสูงขึ้นช่วงปลายฤดูว่า สิ่งที่ต้องทำระหว่างทางจากต้นฤดูถึงปลายฤดูเพื่อสร้างเสถียรภาพราคาข้าวคือ การเก็บสต๊อก เมื่อราคาดี ก็นำออกขาย วิธีการนี้จึงออกมาในรูปของการรับจำนำข้าวโดยรัฐให้ราคา 80% หากราคาดี เกษตรกรไถ่คืนได้ แต่เมื่อกรณีนี้ถูกบิดเบือนไป รัฐบาลจึงใช้นโยบายประกันรายได้แทน ฉะนั้น การประกันรายได้วันนี้ จึงไม่ใช่การสร้างเสถียรภาพของราคาอย่างที่เข้าใจกัน "ถ้าต้องการสร้างความยั่งยืนแก่เกษตรกร ต้องดูเรื่องการผลิตให้มีคุณภาพ และได้ผลผลิตต่อไร่สูง อย่ามุ่งแต่จะขายอย่างเดียว ที่สำคัญต้องหยุดการคอรัปชันที่โกงกันตั้งแต่ชาวนา โรงสี  ผู้ส่งออก  นักการเมือง  และข้าราชการให้ได้ ตราบเท่าที่ยังทำตรงนี้ไม่ได้ เราทั้งหมดยังคงอยู่ในวังวนเดิมๆ ซึ่งเป็นวังวนของความยากจนในหมู่ชาวนาอยู่วันยันค่ำ" นายสมพลกล่าวในที่สุด.

ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ วันที่ 22 มิถุนายน 2553
http://www.thairath.co.th/content/eco/91072

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • นำเลี้ยงปูนิ่ม-พัฒนาท่องเที่ยว วิถีสร้างอาชีพของ วชช.เพื่อชุมชน
  • 'ไม้ผลแปลกและหายาก' ที่น่าปลูกในปี พ.ศ.2554
  • คาดลำไยปีหน้าราคาพุ่ง "ธีระ" ฟุ้งแผนบริหารจัดการดี มุ่งเน้นเดินตามกลไกตลาด
  • ผลิตปุ๋ยอินทรีย์ใช้เอง ลดต้นทุนการผลิตได้
  • วช.หนุนวิจัยปลานิล "จิตรลดา3" คุณภาพเหมาะเลี้ยงเชิงพาณิชย์
  • บริหารนำเข้ากาแฟสำเร็จรูป สกัดผลกระทบเปิดเสรีอาฟตา กษ.จับตาล้นตลาด-ราคาร่วง
  • วิจัย "ดีเอ็นเอ" แตงกวา มก.พัฒนา ต้านราน้ำค้าง
  • ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    Postharvest Technology Innovation Center

    เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology