���͢��¢������Է�ҡ����ѧ����������Postharvest Technology Information NetworkPostharvest Technology�����ɵ���������Ҫԡ���͢������纺��촡���ɵ��ҹ�����ŧҹ�Ԩ��

แนะนำหน่วยงาน

  • หน้าหลัก
  • ประชาสัมพันธ์ศูนย์ฯ
  • ความเป็นมา
  • วัตถุประสงค์
  • โครงสร้างการบริหาร
  • คณะกรรมการอำนวยการ
  • คณะกรรมการบริหาร
  • ภาคีสถาบันอุดมศึกษาและวิจัย
  • ติดต่อศูนย์ ฯ

บริการต่าง ๆ

  • PHTNET E-Learning
  • Postharvest Newsletter
  • เครื่องมือวิทยาศาสตร์
  • ห้องปฏิบัติการ
  • รายชื่อผู้ประกอบการ
  • ฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ
  • หลักสูตรวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว
  • รูปภาพความเสียหายหลังการเก็บเกี่ยว
  • มาตรฐานสินค้าเกษตร และระเบียบการส่งออก
  • ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  • สถาบันวิจัยเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  • กรมส่งเสริมการเกตร
  • กรมวิชาการเกษตร
  • สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
  • อุตุนิยมวิทยาเพื่อการเกษตร
  • สมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ
  • ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
  • สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.)

หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน

แนวโน้มผลผลิตและราคาผลไม้ไทย หลังออกสู่ตลาด

เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 53

แนวโน้มผลผลิตและราคาผลไม้ไทย หลังออกสู่ตลาด ขณะนี้ผลไม้ ได้ทยอยออกสู่ท้องตลาดอย่างต่อเนื่องและมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ซึ่งปีนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประมาณการว่า ภาคตะวันออกจะมีผลผลิตทุเรียน มังคุด เงาะ และลองกอง ออกสู่ตลาดรวมทั้งสิ้น 752,532 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2552 คิดเป็นร้อยละ 1.50 ปัจจุบันเกษตรกรได้ทยอยเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว ประมาณ 289,783.19 ตัน (ร้อยละ 38.51) โดยมีผลผลิตออกสู่ตลาดวันละประมาณ 18,902 ตัน (ข้อมูล ณ วันที่ 11 พ.ค. 2553) ขณะเดียวกันยังมีลิ้นจี่ภาคเหนือตามติดออกมาชิงตลาดอีกชนิดหนึ่งด้วย งานนี้ต้องอาศัยพี่น้องชาวไทยทั้งประเทศช่วยกันอุดหนุนผลไม้ไทยที่มีคุณภาพดี แถมยังมีราคาถูกมาก 


นายอรรถ อินทลักษณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า คณะกรรมการ คชก. อนุมัติวงเงิน 116,724,000 บาท เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรและแก้ไขปัญหาผลไม้ภาคตะวันออก ตามมาตรการดังนี้ คือ 1.มาตรการบริหารจัดการคุณภาพผลผลิต เน้นป้องกันแก้ไขปัญหาทุเรียนด้อยคุณภาพ 2.724 ล้านบาท 2.มาตรการรวบรวมและกระจายผลผลิตออกนอกแหล่งผลิต 114 ล้านบาท เป้าหมาย 73,593 ตัน แยกเป็นค่าใช้จ่ายในการรวบรวมผลไม้ในจังหวัดแหล่งผลิตและกระจายไปยังตลาดปลายทางอย่างรวดเร็วปริมาณ  45,000  ตัน วงเงิน  90  ล้านบาท เป็นเงินจ่ายขาดชดเชยค่าการตลาดเหมาจ่ายและอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องในอัตรา กก. ละ 1 บาท และค่าขนส่งเหมาจ่าย กก. ละ 1 บาท

นอกจากนั้นยังมีค่าจัดซื้อบรรจุภัณฑ์เป็นเงินจ่ายขาดวงเงิน 17.10 ล้านบาท ค่าชดเชยดอกเบี้ย เงินกู้ให้ ธ.ก.ส. ในอัตรา ร้อยละ 3 ของวงเงินกู้ 140 ล้านบาท เป็นเงินจ่ายขาด 4.20 ล้านบาท เพื่อให้สถาบันเกษตรกร วิสาหกิจชุมชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกู้ยืมเพื่อเพิ่มสภาพคล่องในการซื้อขายผลไม้ และค่าบริหารจัดการและติดตามโครงการฯ วงเงิน 2.70 ล้านบาท

ผู้ว่าราชการจังหวัดระยองอนุมัติงบประมาณกองทุนไฟฟ้าจังหวัด จำนวน 10 ล้านบาท เพื่อช่วยกระจายผลผลิตมังคุดไปสู่ตลาดปลายทาง โดยได้รับความร่วมมือจาก อบจ.ระยอง ช่วยกระจายผลผลิตผ่าน อบจ. ทั่วประเทศ ขณะเดียวกันพาณิชย์จังหวัดระยองยังสนับสนุนการนำผลผลิตไปจำหน่ายที่ตลาดเวียดนามด้วย ส่วนสำนักงานเกษตรจังหวัดจันทบุรีได้นำกลุ่มเกษตรกรไปจำหน่ายผลไม้ที่ตลาด อ.ต.ก. 8 กลุ่ม เดอะมอลล์  3 กลุ่ม และพาณิชย์จังหวัดจันทบุรียังได้จัด คาราวานผลไม้ไปจำหน่ายในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศ

อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวอีกว่า นอกจากผลไม้ภาคตะวันออกแล้วยังมีลิ้นจี่จากภาคเหนือ ได้แก่ เชียงราย พะเยา เชียงใหม่ และน่าน ที่ออกสู่ตลาดในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีผลผลิตประมาณ 38,614 ตัน ขณะนี้ราคายังทรงตัวอยู่ เนื่องจากปริมาณผลผลิตมีไม่มาก ส่วนใหญ่จะซื้อขายกันในเกรดคละ เพราะผลผลิตคุณภาพดีมีปริมาณน้อย เพื่อส่งขายตลาดภายในประเทศและเข้าสู่โรงงานแปรรูป


ปัจจุบันคณะกรรมการ คชก. ได้อนุมัติวงเงิน 56.66 ล้านบาท เพื่อรองรับและแก้ไขปัญหาลิ้นจี่ภาคเหนือตามมาตรการดังนี้ คือ มาตรการเร่งรัดกระจายผลผลิตภายในประเทศ ชดเชยค่าขนส่งเหมาจ่ายและค่าบริหารจัดการ กิโลกรัมละ 2 บาท เป้าหมาย 20,000 ตัน เงินจ่ายขาด 40 ล้านบาท และเงินทุนหมุนเวียน 7.50 ล้านบาท เพื่อให้กู้ยืมไปจัดซื้อผลผลิตลิ้นจี่จากเกษตรกรเพื่อเร่งระบายออกนอกแหล่งผลิต จำนวน 2,250 ตัน คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อปี มาตรการส่งเสริมการแปรรูป โดยจะชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้ให้สถาบันเกษตรกรที่กู้จากสถาบันการเงินเพื่อแปร รูปลิ้นจี่อบแห้ง เป้าหมาย 600 ตัน  วงเงินกู้ยืม 6 ล้านบาท อัตราร้อยละ 3 ต่อปี เป็นเงินจ่ายขาด 0.18 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังมีมาตรการพัฒนาคุณภาพ ซึ่งจะสนับสนุนค่าจัดทำบรรจุภัณฑ์ เงินจ่ายขาด 1.98 ล้านบาท มาตรการส่งเสริมการตลาดภายในประเทศ โดยจะจัดงานเทศกาลรณรงค์การบริโภคและจำหน่ายลิ้นจี่ในจังหวัดแหล่งผลิต 3 จังหวัด วงเงิน 0.80 ล้านบาท และจัดงานรณรงค์การบริโภคลิ้นจี่ในจังหวัดปลายทางที่มีศักยภาพ 10 จังหวัด วงเงิน 5 ล้านบาท รวม 5.80 ล้านบาท และค่าบริหารจัดการโครงการฯ วงเงิน 1.20 ล้านบาท

ปีนี้ผลไม้ไทยไม่น่ามีปัญหาด้านการตลาด เพราะปริมาณผลผลิตมีไม่มาก หากวิเคราะห์จากการกระจายตัวและมาตรการที่ภาครัฐให้การสนับสนุนอยู่ในขณะ นี้.

ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 17 พฤษภาคม 2553
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=582&contentID=66095

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • นำเลี้ยงปูนิ่ม-พัฒนาท่องเที่ยว วิถีสร้างอาชีพของ วชช.เพื่อชุมชน
  • 'ไม้ผลแปลกและหายาก' ที่น่าปลูกในปี พ.ศ.2554
  • คาดลำไยปีหน้าราคาพุ่ง "ธีระ" ฟุ้งแผนบริหารจัดการดี มุ่งเน้นเดินตามกลไกตลาด
  • ผลิตปุ๋ยอินทรีย์ใช้เอง ลดต้นทุนการผลิตได้
  • วช.หนุนวิจัยปลานิล "จิตรลดา3" คุณภาพเหมาะเลี้ยงเชิงพาณิชย์
  • บริหารนำเข้ากาแฟสำเร็จรูป สกัดผลกระทบเปิดเสรีอาฟตา กษ.จับตาล้นตลาด-ราคาร่วง
  • วิจัย "ดีเอ็นเอ" แตงกวา มก.พัฒนา ต้านราน้ำค้าง
  • ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    Postharvest Technology Innovation Center

    เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology