͢¢ԷҡѧPostharvest Technology Information NetworkPostharvest TechnologyɵҪԡ͢纺촡ɵҹŧҹԨ

แนะนำหน่วยงาน

  • หน้าหลัก
  • ประชาสัมพันธ์ศูนย์ฯ
  • ความเป็นมา
  • วัตถุประสงค์
  • โครงสร้างการบริหาร
  • คณะกรรมการอำนวยการ
  • คณะกรรมการบริหาร
  • ภาคีสถาบันอุดมศึกษาและวิจัย
  • ติดต่อศูนย์ ฯ

บริการต่าง ๆ

  • PHTNET E-Learning
  • Postharvest Newsletter
  • เครื่องมือวิทยาศาสตร์
  • ห้องปฏิบัติการ
  • รายชื่อผู้ประกอบการ
  • ฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ
  • หลักสูตรวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว
  • รูปภาพความเสียหายหลังการเก็บเกี่ยว
  • มาตรฐานสินค้าเกษตร และระเบียบการส่งออก
  • ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  • สถาบันวิจัยเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  • กรมส่งเสริมการเกตร
  • กรมวิชาการเกษตร
  • สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
  • อุตุนิยมวิทยาเพื่อการเกษตร
  • สมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ
  • ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
  • สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.)

หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน

พริกไทยหลัง AFTA ยังสดใส สศก.ชี้ได้เปรียบคุณภาพชาติคู่แข่ง/คาดปีนี้ผลผลิตลด

เมื่อวันที่ 27 เมษายน 53

พริกไทยหลัง AFTA ยังสดใส สศก.ชี้ได้เปรียบคุณภาพชาติคู่แข่ง/คาดปีนี้ผลผลิตลด

นายอภิชาต จงสกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เผยว่า จากการติดตามสถานการณ์การผลิตและการตลาดพริกไทยเมื่อเดือนมีนาคม โดยเฉพาะใน จ.จันทบุรี ซึ่งมีพื้นที่ปลูกและผลผลิตคิดเป็นประมาณร้อยละ 98 ของพื้นที่ปลูกและผลผลิตพริกไทยทั้งประเทศ พบว่า เกษตรกรเก็บเกี่ยวผลผลิตไปแล้วประมาณร้อยละ 80 ซึ่งจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผลผลิตในปีนี้ออกล่าช้า ส่วนที่เหลือจะเก็บเกี่ยวได้ภายในเดือนเมษายน โดยคาดว่าจะมีผลผลิต 6,956 ตัน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 5

อย่างไรก็ตาม การผลิตมีแนวโน้มลดลง สาเหตุสำคัญมาจากสภาพดินเสื่อมโทรมและเกษตรกรมีทางเลือกในการปลูกพืชหลายชนิดที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า จึงได้ปรับเปลี่ยนไปปลูกพืชอื่น เช่น ยางพารา และแก้วมังกร ซึ่งเกษตรกรบางรายจะขายในรูปพริกไทยอ่อน เนื่องจากสามารถขายผลผลิตโดยไม่สูญเสียน้ำหนักและไม่มีต้นทุนในการทำเป็น พริกไทยเมล็ดแห้ง โดยขายได้ในราคาเฉลี่ย กิโลกรัมละ 40 บาท ทำให้ผลผลิตพริกไทยเมล็ดแห้งคาดว่าจะเหลือประมาณ 4,000 ตัน และราคาที่เกษตรกรขายได้ของพริกไทยดำเกรดคละในเดือนมีนาคม อยู่ระหว่างกิโลกรัมละ 80-110 บาท ส่วนพริกไทยขาวอยู่ระหว่างกิโลกรัมละ 170-180 บาท

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2553 เป็นต้นมา ไทยได้เปิดเสรีสินค้าพริกไทยภาษีร้อยละ 0 ตามข้อตกลงการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) ซึ่งจากการติดตามสถานการณ์พบว่า มีการนำเข้าพริกไทยจากประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ เวียดนาม กัมพูชาและลาว แต่ยังไม่ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผู้ปลูกพริกไทย เนื่องจากมีข้อได้เปรียบในเรื่องคุณภาพ โดยเฉพาะกลิ่นและรสชาติทำให้พริกไทยจันทบุรียังเป็นที่ต้องการของตลาด จึงคาดว่าอนาคตพริกไทยหลังเปิด AFTA ยังคงสดใส ราคามีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากความต้องการของผู้ประกอบการยังคงมีอย่างต่อเนื่อง แต่อาจมีปัญหาเกี่ยวกับผลผลิตมีไม่เพียงพอกับความต้องการใช้ในประเทศ ทำให้ต้องมีการนำเข้าเพิ่มขึ้น เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาดังกล่าว

ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 27 เมษายน 2553
http://www.naewna.com/news.asp?ID=208846

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • นำเลี้ยงปูนิ่ม-พัฒนาท่องเที่ยว วิถีสร้างอาชีพของ วชช.เพื่อชุมชน
  • 'ไม้ผลแปลกและหายาก' ที่น่าปลูกในปี พ.ศ.2554
  • คาดลำไยปีหน้าราคาพุ่ง "ธีระ" ฟุ้งแผนบริหารจัดการดี มุ่งเน้นเดินตามกลไกตลาด
  • ผลิตปุ๋ยอินทรีย์ใช้เอง ลดต้นทุนการผลิตได้
  • วช.หนุนวิจัยปลานิล "จิตรลดา3" คุณภาพเหมาะเลี้ยงเชิงพาณิชย์
  • บริหารนำเข้ากาแฟสำเร็จรูป สกัดผลกระทบเปิดเสรีอาฟตา กษ.จับตาล้นตลาด-ราคาร่วง
  • วิจัย "ดีเอ็นเอ" แตงกวา มก.พัฒนา ต้านราน้ำค้าง
  • ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    Postharvest Technology Innovation Center

    เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology