͢¢ԷҡѧPostharvest Technology Information NetworkPostharvest TechnologyɵҪԡ͢纺촡ɵҹŧҹԨ

แนะนำหน่วยงาน

  • หน้าหลัก
  • ประชาสัมพันธ์ศูนย์ฯ
  • ความเป็นมา
  • วัตถุประสงค์
  • โครงสร้างการบริหาร
  • คณะกรรมการอำนวยการ
  • คณะกรรมการบริหาร
  • ภาคีสถาบันอุดมศึกษาและวิจัย
  • ติดต่อศูนย์ ฯ

บริการต่าง ๆ

  • PHTNET E-Learning
  • Postharvest Newsletter
  • เครื่องมือวิทยาศาสตร์
  • ห้องปฏิบัติการ
  • รายชื่อผู้ประกอบการ
  • ฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ
  • หลักสูตรวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว
  • รูปภาพความเสียหายหลังการเก็บเกี่ยว
  • มาตรฐานสินค้าเกษตร และระเบียบการส่งออก
  • ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  • สถาบันวิจัยเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  • กรมส่งเสริมการเกตร
  • กรมวิชาการเกษตร
  • สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
  • อุตุนิยมวิทยาเพื่อการเกษตร
  • สมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ
  • ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
  • สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.)

หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน

เทคโนโลยีตรวจสอบย้อนกลับสแกนรหัสลงลึกถึงแปลงปลูก

เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 53

เทคโนโลยีตรวจสอบย้อนกลับสแกนรหัสลงลึกถึงแปลงปลูก


กระทรวงเกษตรฯ ร่วมกับ กสท. เปิดตัวโครงการนำร่อง การใช้เทคโนโลยีเพื่อการตรวจสอบย้อนกลับแหล่งผลิตสินค้าเกษตรและอาหารจากรหัสมาตรฐานสากล อีพีซีไอเอส (EPCIS)

นายนิกร จำนง ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า โครงการดังกล่าว  อยู่ภายใต้ยุทธศาสตร์มาตรฐานความปลอดภัยสินค้าเกษตรและอาหารปี 2553-2556 ในแผนยุทธศาสตร์ที่ 5 ว่าด้วยการสร้างความมั่นใจในมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารของไทย โดยให้บริษัท กสท. โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ดูแลด้านเทคโนโลยี ได้คัดเลือกบริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด ดูแลโซลูชั่น เทคโนโลยีการสื่อสารแบบอัตโนมัติ อินโฟสเฟียร์ เทรสสิบิลิตี้ เซิร์ฟเวอร์ (Infosphere Traceability Server) รองรับการทำงานตามมาตรฐาน อีพีซีไอเอ (Electronic Product Code Information Services) และบริษัทเอฟเอ็กซ์เอ จำกัด (FXA) ทำหน้าที่    ดูแลแอพพลิเคชัน ระบบฐานข้อมูลการตรวจสอบย้อนกลับอ๊อปสมาร์ท (OpsSmart)

นายนิวัติ สุธีมีชัยกุล  ผู้อำนวยการ มกอช. เล่าให้ฟังว่า โครงการนำร่องนี้ จะคัดเลือกผู้ผลิตและเกษตรกรในอุตสาหกรรมปศุสัตว์ ประมง และพืช ทั้งผู้ผลิตเพื่อบริโภคภายในประเทศ และส่งออก ที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐาน จีเอ็มพี (GMP) มาเข้าร่วมไม่น้อยกว่า 600 ราย จากเกษตรทั้งหมดประมาณ  5-6 แสนรายทั่วประเทศ ตั้งเป้าว่าจะมีเกษตรกรมาเข้าร่วมอย่างน้อย 25% และ หวังว่าภายใน 5 ปีจะเพิ่มสูงสุดเป็น 70% คาดว่าประมาณกลางเดือน พ.ค. จะสามารถสแกนรหัสแต่ละแปลงปลูกได้ทุกอย่างจะเสร็จสมบูรณ์ภายในเดือน ก.พ. ปี 2554

เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ ต้องเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 1 หมื่นบาทต่อปี เพื่อรักษาฐานข้อมูล ต่อ 1 ตัวเลข และ 1 ตัวเลขนี้สามารถแตกไปได้อีก 9,999 แปลง โดยภายใน 3 ปีแรก จะทุ่มงบประมาณจำนวน 9 ล้านบาท ช่วยออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด

ประโยชน์ที่ผู้ซื้อสินค้าและเกษตรกรจะได้รับจากโครงการก็คือ สามารถตรวจสอบข้อมูลผลิตภัณฑ์ย้อนกลับไปยังแหล่งที่มาของสินค้า ที่ตั้งโรงงาน วันที่ผลิต วันที่หมด  อายุ วันส่งสินค้า ไปจนถึงตำแหน่งของแปลงที่ใช้ปลูกได้ ทำให้หาต้นเหตุของการเกิดปัญหาได้รวดเร็ว สามารถเรียกคืนเฉพาะสินค้าที่มีปัญหา ลดการสูญเสียทางเศรษฐกิจ สร้างความน่าเชื่อถือต่อผู้บริโภค เรียกความมั่นใจจากประเทศผู้นำเข้าได้สินค้าขายได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังสามารถแข่งขันในระดับโลกตามมาตรฐานสากลได้ด้วย.

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 31 มีนาคม 2553
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=582&contentID=57078

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • นำเลี้ยงปูนิ่ม-พัฒนาท่องเที่ยว วิถีสร้างอาชีพของ วชช.เพื่อชุมชน
  • 'ไม้ผลแปลกและหายาก' ที่น่าปลูกในปี พ.ศ.2554
  • คาดลำไยปีหน้าราคาพุ่ง "ธีระ" ฟุ้งแผนบริหารจัดการดี มุ่งเน้นเดินตามกลไกตลาด
  • ผลิตปุ๋ยอินทรีย์ใช้เอง ลดต้นทุนการผลิตได้
  • วช.หนุนวิจัยปลานิล "จิตรลดา3" คุณภาพเหมาะเลี้ยงเชิงพาณิชย์
  • บริหารนำเข้ากาแฟสำเร็จรูป สกัดผลกระทบเปิดเสรีอาฟตา กษ.จับตาล้นตลาด-ราคาร่วง
  • วิจัย "ดีเอ็นเอ" แตงกวา มก.พัฒนา ต้านราน้ำค้าง
  • ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    Postharvest Technology Innovation Center

    เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology