แล้งนี้ ปลูกพืชใช้น้ำน้อยกันเถอะ

หมวดหมู่ : ข่าวเกษตร เมื่อวันที่ 26 มกราคม 54
แล้งนี้ ปลูกพืชใช้น้ำน้อยกันเถอะ

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้กำหนดเป้าหมายส่งเสริมการเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง ปี 2553/54 พื้นที่รวมทั้งสิ้น 15.29 ล้านไร่ แยกเป็น ข้าวนาปรัง จำนวน 12.60 ล้านไร่ (ในเขตชลประทาน 8.91 ล้านไร่ นอกเขตชลประทาน 3.69 ล้านไร่) และพืชไร่-พืชผัก จำนวน 2.69 ล้านไร่ (ในเขตชลประทาน 0.69 ล้านไร่ และนอกเขตชลประทาน 2 ล้านไร่)

นายอรรถ อินทลักษณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า เนื่องจากปีนี้มีปริมาณน้ำต้นทุนในอ่างเก็บน้ำค่อนข้างจำกัด ดังนั้น จึงขอความร่วมมือเกษตรกรที่ปลูกพืชฤดูแล้งให้ใช้น้ำชลประทานอย่างประหยัด โดยเฉพาะพื้นที่นอกเขตชลประทาน หากไม่อยู่ในพื้นที่เป้าหมายไม่ควรทำนาปรังเนื่องจากการปลูกข้าวต้องใช้น้ำมากตลอดช่วงการเจริญเติบโต การปลูกพืชฤดูแล้งเกษตรกรจำเป็นต้องเพาะปลูกตามต้นทุนของแหล่งน้ำ เพื่อลดความเสี่ยงจากปัญหาขาดแคลนน้ำซึ่งอาจกระทบต่อระบบการผลิตและทำให้ขาด ทุนได้ อีกทั้งยังต้องพิจารณาถึงแนวโน้มความต้องการของตลาดและช่องทางการจำหน่ายด้วย เกษตรกรอาจปรับเปลี่ยนไปปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อยกว่า เช่น พืชไร่–พืชผัก ซึ่งใช้น้ำน้อยกว่าข้าวถึงประมาณ 3 เท่า

สำหรับการจัดสรรน้ำเพื่อการเกษตรกรรมในช่วงฤดูแล้งปี 2553/54 จะจัดตามลำดับความสำคัญ คือ 1. พื้นที่เกษตรกรรมที่ได้รับความเสียหายจากฤดูนาปีและสวนไม้ผล 2. พื้นที่เกษตรกรรมที่อยู่ในรอบเวรการส่งน้ำ 3. พื้นที่เกษตรกรรมที่ใช้น้ำน้อย เช่น การปลูกพืชไร่และพืชผัก และ 4. การทำนาปรังเพื่อเพิ่มพูนรายได้

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กรมส่งเสริมการเกษตรได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรในพื้นที่เร่งรัดส่งเสริมการผลิตและขยายพื้นที่ปลูกพืชไร่-พืชผักที่มีลู่ทางการตลาดที่ดี รวมทั้งพืชทดแทนการนำเข้าและพืชอุตสาหกรรม ได้แก่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ข้าวโพดฝักอ่อน ถั่วเหลือง ถั่วเขียว ถั่วลิสง และพืชผักต่าง ๆ เพื่อทดแทนการทำนาปรัง ซึ่งสามารถช่วยประหยัดน้ำได้ค่อนข้างมาก เนื่องจากกลุ่มพืชดังกล่าวเป็นพืชอายุเก็บเกี่ยวสั้นและใช้น้ำน้อย ทั้งยังมีแนวโน้มการตลาดและราคาค่อนข้างดี โดยเฉพาะถั่วเขียว ถั่วเหลือง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และถั่วลิสง เป็นต้น ขณะเดียวกันการปลูกพืชอายุสั้นและพืชใช้น้ำน้อยดังกล่าว ยังสามารถช่วยตัดวงจรการแพร่ระบาดของศัตรูพืชในนาข้าว เช่น เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล และขจัดปัญหาวัชพืชในนาข้าวได้อีกด้วย

อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรกล่าวย้ำว่า เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่อการเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง ขอให้พี่น้องเกษตรกรปลูกพืชตามแผนที่กำหนด ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ควรใช้น้ำอย่างประหยัดและใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด นอกจากนั้นยังควรเร่งปรับปรุงและพัฒนาประสิทธิภาพการผลิต และขบวนการหลังการเก็บเกี่ยวเพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพเพิ่มขึ้น มีความปลอดภัยและได้มาตรฐาน ซึ่งจะทำให้เป็นที่ยอมรับและเป็นที่ต้องการของตลาด ขายได้ราคาดี และได้รับผลตอบแทนคุ้มค่าการลงทุน

หากเกษตรกรสนใจข้อมูลเกี่ยวกับ “การเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง” สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ กองพัฒนาการเกษตรพื้นที่เฉพาะ กรมส่งเสริมการเกษตร โทร. 0-2940-6059 หรือสำนักงานเกษตรจังหวัด และสำนักงานเกษตรอำเภอใกล้บ้าน.

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 26 มกราคม 2554
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=344&contentID=117402